www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

คมความคิด คีอานู รีฟส์ พระเอกหัวใจธรรมะ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-09-10 15:19:02

        ภาพ: flickr.com

 โด่งดังมาเกิน 20 ปีแล้ว แต่ "คีอานู รีฟส์" ก็ยังคงครองตำแหน่งขวัญใจสาว ๆ อย่างเหนียวแน่น 


การปรากฏตัวครั้งล่าสุดของเขาในวัยกว่า 50 ปี เข้าไปแล้ว แต่ความหล่อเหลาของเขาแทบจะคงเดิม


นอกจากนั้นวิถีชีวิตที่แตกต่างจากการเป็น "ซูเปอร์สตาร์" ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ก็ยิ่งทำให้เขาคนนี้ "ไม่มีใครเหมือน"
       
 

นับจากวันที่ภายยนตร์เรื่อง Speed เข้าฉายเมื่อ 19 ปีก่อน คีอานู รีฟส์ ได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของสาว ๆ จำนวนมาก และถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมหนีไปไหน ยังคงครองตำแหน่งอยู่ในใจสาวหน้อย
สาวใหญ่อยู่เหมือนเดิม

 แต่เสน่ห์ในด้านการใช้ชีวิต และคมความคิดที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์และความสนใจในพุทธศาสนาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นดาราที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ 
 

 

          คีอานู รีฟส์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) ในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ก่อนจะต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ  แม่ของเขาเป็นชาวอังกฤษ พ่อของเขาเป็นชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายฮาวาย จีน โปรตุเกส และอังกฤษ  โดยเขาเคยไปอยู่มาแล้วทั้งที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และกรุงนิวยอร์ก

          ด้วยใบหน้าหล่อเหลา มีส่วนผสมของทั้งยุโรป และเอเชียในสัดส่วนที่ลงตัว บุคคลิกลึกลับน่าค้นหา คีอานู รีฟส์ ยังคงฉายความโดดเด่นได้เหมือนสมัยหนุ่มแน่น นอกจากนั้นชีวิตส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครก็ถือเป็นเสน่ห์ส่วนตัวของเขาคนนี้ด้วย

 

พระเอกติดดิน 

       ส่วนใหญ่ภาพส่วนตัวของนักแสดงดังจากฮอลลีวูด มักจะปรากฎตัวอยู่ในร้านหรูหรา, ชายหาดเมืองพักร้อน หรือตามโรงแรมราคาแพง แต่ปาปารัสซีมักจะถ่ายภาพ คีอานู รีฟส์ ได้จากตามท้องถนน, รถไฟใต้ดิน หรือสถานที่ปกติธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ไปกัน 


       ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังถึงขั้นเคยใช้เวลาเสวนากับคนจรจัดในลอสแอนเจลิส กลุ่มบุคคลไร้บ้านที่ปกติคนทั่วไปมักจะรังเกียจ และไม่อยากเข้าใกล้ด้วย
       
       โดยในเดือน ก.ย. 1997 นักข่าวได้พบหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งก็คือพ่อหนุ่มคนดัง คีอานู รีฟส์ นั่นเอง ที่ใช้เวลาในช่วงเช้า นั่งคุย, แลกเปลี่ยน ให้ความสนิทสนมกับคนไร้บ้านผู้หนึ่ง ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน โดยเป็นการใช้เวลาที่นานพอสมควร
 

         สำหรับการนั่งคุยกัน เป็นภาพที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับคนดัง ที่จะมาทำอะไรแบบนี้ หากไม่ใช่เพื่อการถ่ายทำรายการอะไรทำนองนั้น หรือโครงการกุศลที่มีกล้องรอเก็บภาพอยู่รอบ ๆ ตัว
 

           และยังมีภาพที่ คีอานู ร่วมโดยสารรถไฟใต้ดินนิวยอร์กเหมือนประชาชนทั่วไปคนหนึ่ง และยังปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างแก่สังคม ด้วยการลุกให้สุภาพสตรีนั่งด้วย
 

           มักพบภาพเขาคุยกับคนอื่นอย่างเป็นกันเอง 
 

ภาพ: flickr.com

 

คนดังที่จิตใจไม่ธรรมดา 
 

           ด้วยความเป็น “คนดัง” ที่มีจิตใจไม่ธรรมดาของ “คีอานู รีฟส์” ได้สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน เมื่อเขากลับบริจาคเงิน 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,800ล้านบาท) จากรายได้ที่เขาได้รับ 114 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3,990 ล้านบาท) ให้แก่ทีมงานเทคนิคพิเศษ และทีมงานช่างแต่งหน้า
 

            และเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในฉากการถ่ายทำที่อยากจะรู้จักชื่อของทุกคน และอยากที่จะทักทายพวกเขาทุกคนอย่างจริงใจ และพูดคุยกับทุกคนตรงนั้นเหมือนกับทุกคนเป็นเพื่อนกับเขา แถมยังเคยควักเงินของตัวเองจ่ายค่าตัวให้ดาราคนอื่น เพื่อให้งบประมาณการสร้างหนังไม่บานปลาย ทำให้ทุกคนต่างบอกว่าเขาเป็นคนที่นิสัยดีที่สุดใน Hollywood
 

             ความใจดีของ คีอานู รีฟส์ ยังถูกพูดถึงเสมอ ในเหตุการณ์ เขาต้องดูแลน้องสาวของเขา Kim ที่พบว่าเธอเป็นลูคิเมีย ตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว เขาได้บริจาคเงินจำนวนมากให้แก่องค์กรการกุศลด้านโรงมะเร็ง ศูนย์วิจัย และโรงพยาบาลหลายแห่ง เขายังได้จัดตั้งองค์กรการกุศลของเขาเอง แต่เลือกที่จะไม่ใช้ชื่อของเขาในการจัดตั้ง รวมถึงองค์กรการกุศลอื่น ๆ ที่เขาช่วยเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็น Stand Up to Cancer และ Sick Kids

 

พระเอกหัวใจธรรมะ 

 เขาเคยรับบทบาทเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และพระพุทธเจ้า ในภาพยนตร์เรื่อง Little Buddha ด้วย 

 

 


ภาพคีอานูรับบทเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ในภาพยนตร์เรื่อง Little Buddhahttps://instagram.com/p/pHa2o5vMGW/

 

 

ซึ่งภายหลัง คีอานู รีฟส์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสารเกี่ยวกับการสนใจธรรมะว่า

         " หลักธรรมอย่างแรกที่รู้คือ ความจริงสี่ประการ (อริยสัจ4) เกี่ยวกับ ทุกข์ สาเหตุแห่งทุกข์ หนทางดับทุกข์ และวิธีพ้นไปจากทุกข์ จนพบความสุข
 

          ศาสนาพุทธ เชื่อในการปล่อยวาง
 

          ตัวของเรา ซึ่งก็คือ อีโก ในความเชื่อทางตะวันตก
 

          พุทธจะสอนว่า สิ่งที่เรานึกว่ามันเป็น ตัวเรานั้น ที่แท้มันไม่มีอยู่จริง

 

ภาพ : flickr.com

 

          และในขณะที่ผมไปเนปาลเพื่อลองชุดที่ต้องใช้ในการถ่ายทำ ผมก็ได้พบท่านอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสนาพุทธ ตำแหน่งท่านคือ ริมโพช ซึ่งทำงานกับ เบอร์นาร์โด ผมได้คุยกับท่านอยู่หลายครั้ง ท่านสอนผมให้ฝึกร่างกาย เพื่อให้เข้าถึงสมาธิ และท่านสอนผมว่าทำอย่างไรจึงจะละวางตัวตนได้หมดไป แล้วไปถึงนัยยะอื่นๆ แง่มุมอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงความเมตตา ความหยั่งรู้ และความสุขในที่สุด


           ตอนที่ผมต้องเรียนสิ่งเหล่านี้กับท่านริมโพช มันยากมาก มันเจ็บด้วยนะ นั่งขัดสมาธินาน ๆ น่ะ และมันยังทำใจลำบากจริง ๆ ที่จะละวางสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา ท่านจึงบอกผมว่า
 

            จงอย่าเชื่อในสิ่งที่ท่านพูด ท่านให้ผมคิดทุกอย่างที่ได้ฟังมา ทดสอบกับสิ่งที่ผมเคยรู้ และขบคิดอย่างจริงจัง เพื่อให้ผมรู้ได้ด้วยตัวเองว่า มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่
 

              นั่นคือ ศาสนาพุทธที่แท้จริง มันไม่ใช่แค่ การศรัทธาแล้วก็เชื่อ มันเป็นความโดดเด่นของศาสนานี้ มันไม่ใช่การเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนความเชื่อหรือชักชวนให้เปลี่ยนศาสนา
 

              พระไม่ได้บอกคุณว่า เฮ ปาวารณาตนเข้ามาแล้วฉันจะให้รางวัลคุณนะ แต่เขาบอกคุณว่า เขาได้ชี้ทางให้คุณแล้ว ให้คุณลองคิดดู และนี่มันทำให้ผมสนใจศาสนานี้ เพราะว่าเป็นศาสนาที่ศึกษาเกี่ยวกับ ความจริง โดยมีพื้นฐานมาจาก ความรัก ความเห็นใจ ความเอื้อเฟื้อต่อกัน และ ความสุข"

 

ภาพ : flickr.com

 

คีอานู รีฟส์ได้อธิบายและกล่าวถึงการถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
ไว้ในเทปการเผยแพร่ศาสนาของทิเบตชุดหนึ่ง 

 งานนี้ คีอานูรับทำฟรี ไม่มีค่าตัว ส่วนราคาวีดีโอชุดนี้อยู่ที่ US$108.95 
มีอยู่ 13 หัวข้อ แต่จะขอยกตัวอย่างมาบางส่วนเท่านั้น ) 



Section 4 : The Spiritual Teacher
 


            ถ้าคุณอยากเรียนอะไรสักอย่างให้กระจ่าง คุณต้องค้นหา ครูที่เป็นผู้รู้แจ้งในเรื่องนั้น โดยเฉพาะในเรื่องหาวิธีพ้นทุกข์ การอ่านหนังสือเอง อาจไม่สามารถตอบข้อสงสัยทุกข้อของคุณได้ทั้งหมด
 

             ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำอย่างแรกในตอนนี้ คือการเปิดใจเข้าหาครูของคุณLama Tsongkhapa ที่คุณจะได้พบต่อไปนี้ ได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้สอนที่อุทิศตัวให้งานและฝึกฝนวิธีการสอนมาอย่างดี เปิดใจเข้าหาท่าน แล้วคุณจะพบสิ่งนั้น 


Section 6 : All About Karma


              พวกเราทุกคนล้วนอยากมีความสุข หากเราคิดว่า ชีวิตเราถูกลิขิตมาตั้งแต่แรกเกิด เราก็จะคิดว่า เราไม่สามารถสร้างสิ่งดีๆให้ตัวเราได้
 

                แต่ในศาสนาพุทธ ทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น
 

                 พุทธบอกให้เรามองสิ่งที่เกิดบนโลกนี้ในรูปแบบของความจริง (Fact) ที่เรียกว่า กรรม (Karma) ซึ่งขึ้นกับ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ( action body speech and mind) ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันเป็น กรรม ที่หมายถึงการรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณเอง
 

                ในบทนี้ เราจะเล่าเรื่องง่ายๆที่จะทำให้ กรรมของคุณเป็นสิ่งดี เรียนรู้วิธีที่จะสร้างอนาคตที่ดีต่อตัวคุณเอง

 


Section 7 : Refuge in the Three Jewels
 

ภาพ : flickr.com


                   เมื่อเรามีทุกข์ เรามักหาที่พักพิง สิ่งที่เราใช้กันประจำคือ เหล้า เซ็กส์ ยา อำนาจหรือเงินตรา แต่ในที่สุด มันก็ไม่ยั่งยืนจนเราไม่รู้ว่า อะไรคือความสุขที่แท้จริงกันแน่
 

                   ในปรัชญาแห่งพุทธ ที่พึ่งที่ดีที่สุด คือ พระรัตนตรัย ซึ่งประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ,
 

                      พระพุทธ คือองค์พระศาสดา ผู้เปรียบเหมือนนายแพทย์ที่ค้นพบวิธีพ้นทุกข์

                     พระธรรม คือตัวยาที่จะฆ่าเหตุแห่งทุกข์ออกไปจากเรา และ

                     พระสงฆ์ คือคณะแพทย์ที่รู้ว่าเราเหมาะกับยาใด
 

                     เรียนรู้พระรัตนตรัย จะทำให้เราพบกับความสุขที่ยั่งยืน


 

เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง 

 

 

              เขาบอกเสมอว่า เขาทำชีวิตของเขาให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาสัมภาษณ์กับ Hello! Magazine ในปี 2003 ว่า เงินเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะนึกถึง เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตกับสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว


"Money is the last thing I think about.
I could live on what I have already made for the next few centuries," he declared.
"เงินคือสิ่งสุดท้ายที่ผมห่วง เพราะเงินที่ผมมีอยู่ผมก็ใช้ได้หลายร้อยปีแล้ว" Keanu กล่าวไว้

 

 

ชีวิตที่เจ็บปวดแต่ต้องดำเนินต่อไป 
 

            แม้จะต้องพบความเจ็บปวดในชีวิต จากการสูญเสียเพื่อนรักที่ฆ่าตัวตาย และในช่วงหลัง ต้องเผชิญเหตุการณ์น้องสาวและคนรัก รวมถึงลูกในครรภ์ ที่จากไปติด ๆ กัน ซึ่งเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับหลาย ๆ คน

 
           แต่เขาผ่านสิ่งเหล่านี้มาด้วยตัวเขาเอง เขาก็ไม่ได้โทษเขากับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวเขาเองด้วยที่เลือกที่จะไม่จมอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับกัน เขาพยายามที่จะมองโลกให้เป็นสถานที่ที่สวยงาม
 

            เขาบอกว่าความหมายของชีวิต คือ การได้นอนอยู่บนเตียงกับคนรัก ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ใช้เวลากับเพื่อน คุยเรื่องราวต่าง ๆ เรียนรู้ โลก พื้นดิน ย้อนเรื่องราวในอดีตกับเพื่อนเก่า ครอบครัวด้วยไวน์ และอาหารดี ๆ และมีความสุขกับการใช้ชีวิต ชอบเวลาที่อยู่ในทะเลทราย ในธรรมชาติ อยู่ในพื้นที่พิเศษในธรรมชาติ 

****************************************

 

ที่มา :

http://www.kiitdoo.com/keanu-reeves-inspiring-story/

http://pantip.com/topic/30773046  

 movie.kapook.com/view60184.html
 

www.bloggang.com/mainblog.php?id=keanuthailand



www.manager.co.th/entertainment/viewnews.aspx?NewsID=9560000043948