www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

ธรรมสอนใจ‘แก่นพุทธธรรม’โดย‘พระพรหมบัณฑิต’
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-04-23 11:43:00


ธรรมสอนใจ‘แก่นพุทธธรรม’โดย‘พระพรหมบัณฑิต’

ธรรมสอนใจ‘แก่นพุทธธรรม’ โดย ‘พระพรหมบัณฑิต’วัดประยุรฯ

“คนเราต้องมีอิสระทั้งภายนอกทั้งภายใน ปลดปล่อยจิตใจให้เบาสบาย แล้วเราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ยิ่งถ้าเราเครียด เรากังวลก็ยิ่งตกเป็นทาสความคิดของเราเอง การแสวงหาทางออกตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า “แก่นของพุทธธรรม”...ธรรมสอนใจ โดยพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เทศนาธรรม ตามโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ณ อาคารซีพีทาวเวอร์ ถนนสีลม

หากถามถึง "แก่นพุทธธรรม” พระพรหมบัณฑิต เทศนาว่าเป็นเหมือนการตั้งคำถามถึงเหตุผลหรือความจำเป็นของการมีพระพุทธศาสนาในโลกใบนี้ ?
โดยเจ้าอาวาสวัดประยูร อธิบายว่า สำหรับเหตุผลแห่งความมีอยู่...มักจะมีกับทุกเรื่อง คือ ทำไมต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ แม้กระทั่งทำไมต้องมีเราอยู่บนโลกนี้ ถ้าไม่มีเรา โลกจะขาดอะไร? ไม่มีเราครอบครัวจะขาดอะไร? และไม่มีเราสังคมจะขาดอะไร? ประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร?
เรามีแก่นของการดำรงอยู่ คือ ไม่มีเราไม่ได้ เช่นเดียวกันทำไมต้องมีพระพุทธศาสนา “ถ้าจะตอบในเวลาสั้นๆ ว่า “แก่นพุทธธรรม” หรือแก่นของศาสนา คืออะไร ภาษาพระ ท่านใช้คำว่า “วิมุตติ” ที่แปลว่า หลุดพ้น
พระพุทธเจ้าได้สรุปไว้เองว่า น้ำทะเลในมหาสมุทร ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของโลก จะมีรสเดียว คือ รสเค็ม
ธรรมะไม่ว่าจะสอนเมื่อไหร่ ตรงไหน อย่างไร จะมีรสเดียว คือ “วิมุตติรส” รสแห่งความหลุดพ้น แก่นของศาสนาอยู่ตรงนี้ พูดเป็นภาษาศาสนาว่า “วิมุตติ” ภาษาปัจจุบัน คือ “อิสระ” พระพรหมบัณฑิตกล่าว
นอกจากนี้ปัญหาทั้งหลายเหมือนทรายที่ทับถมเข้ามาในชีวิตเรา บางคนปล่อยให้ทรายทับถมตัวเอง และใครบ่นใครว่ากล่าวทำให้เสียใจ แทนที่จะทำใจสลัดออกให้พ้นจากปัญหา เห็นภาพที่ไม่อยากเห็นก็จะเป็นทุกข์ ฟังเสียงที่ไม่อยากได้ยินก็เป็นทุกข์ คิดถึงเรื่องที่ไม่อยากคิดเราก็เป็นทุกข์ ภาพ รส กลิ่น เสียงมาท่วมทับ

ดังนั้นเราเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราต้องสะบัดให้หลุดพ้น ด้วยสติและปัญญา เหมือนกับคำว่า “สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดมักเกิดปัญหา”
เพราะฉะนั้นในยามเศร้า ยามทุกข์ มีปัญหาใดๆ ก็ตาม สะบัดหลุดพ้นด้วย นิสาระ ณ ปัญญา หรือ ๓ คำจำง่ายๆ ให้ได้ปัญญา ดังนี้

๑.ผ ผัสสะ ๒.ส สังขาร ๓.ว วิบาก ถ้าผัสสะแล้วปรุงแต่งไม่ดี ไม่มีปัญญา จะมีวิบากเป็นทุกข์ และวิธิสลัดให้พ้นด้วยทุกข์ก็มี ๔ คำให้จำง่ายๆ เช่นกัน ดังนี้ ๑.ผ ผัสสะ ๒.ส สติ ๓.ย โยนิโส ฉลาด ๔.ว วิบาก คือ ผลที่ดีก็จะทำให้ชีวีเป็นสุข

ดังเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระธรรมว่า เงินทองทรัพย์สินที่หามาต้องซื่อสัตย์สุจริตด้วยธรรมะ แต่หามาแล้วอย่าเป็นทาสของทรัพย์นั้น

คนที่เป็นทาสก็เหมือนคนที่มีทองเท่าหนวดกุ้งนอนสะดุ้งจนเรือนไหว มีเอาไว้ใช้เป็นประโยชน์ ส่วนใครที่มีทรัพย์สิน แต่ไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็เหมือนสระน้ำใสสะอาด แต่อยู่กลางป่าลึก ไม่ได้ใช้ประโยชน์

เพราะฉะนั้นเราหาทรัพย์สินมาแล้วโดยชอบธรรม เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงเพื่อน และครอบครัว แจกจ่าย ทำบุญในพระศาสนา นี่จึงถือว่ามี วิมุต นิสาระ ณ ปัญญา คือ มีปัญญาเครื่องสลัดออก บริโภคทรัพย์นั้น เป็นอิสระเหนือสิ่งที่เรามีเราเป็น ทุกข์เพราะคนอื่นก็ถือว่าเราเป็นทาสเขา ทำไมต้องแบกโลกต้องเป็นทุกข์

พระพุทธเจ้าสอนพระโมคคัลลานะ สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรที่จะไปยึดติด ไม่ควรจะไปเป็นทาสทั้งภายในภายนอก ดังคำสอนที่ท่านพุทธทาสได้ว่าไว้

“ยามจะได้..ได้ให้เป็นไม่เป็นทุกข์ เรามีลาภมีเงินมีทอง แต่ได้ให้เป็นจะไม่เป็นทุกข์ ยามจะเป็น...เป็นให้ถูกตามวิถี ยามจะตาย..ตายให้เป็นเห็นสุดดี ถ้าอย่างนี้ไม่มีทุกข์ทุกวันเอย”

ท่านที่สนใจข้อคิดดีๆ แบบนี้ เข้ารับฟังธรรมบรรยายโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ได้ที่ชั้น ๑๑ อาคารซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๓๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับวันศุกร์ที่ ๒๔ เมษายนนี้ พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี บรรยายธรรมหัวข้อ “ชาวพุทธแท้” สอบถามโทร.๐-๒๖๗๗-๑๙๐๑ หรือwww.cpall.co.th