www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

ครูบาดวงดี ยติโกอริยสงฆ์ล้านนาที่มีอายุพรรษามากที่สุด
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-10-16 13:47:24

"หากไม่นับครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้มแล้ว ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนนับได้ว่า มีจิตที่เย็นที่สุดในเชียงใหม่ล้านนาเรายุคนี้"

              
               ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นคำพูดของครูบาเทือง นาถสีโล เจ้าอาวาสวัดเด่นสะหรีศรีเมืองแคน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่มีความศรัทธาต่อหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก อันเป็นที่สุดของอริยสงฆ์ในแถบล้านนา ที่มีอายุพรรษามากที่สุด  ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต

 

คำสอนครูบาดวงดี

" การปู่จาพระพุทธเจ้านั้นมีอย่างใดพ่อง การปู่จาพระเจ้านั้นมีสองประการคือ หนึ่งปู่จาด้วยข้าวตอกดอกไม้ ปัจจัยไทยทานปู่จาตานแล้วมีใจ๋ผ่ิงแผ้วยินดีอันนี้เปิ้นฮ้องว่าอมิสสปู่จา แหมอย่างนั้นปู่จาพระพุทธเจ้าด้วยก๋ารปฏิบัติถือศีลห้า ภาวนาสวดมนต์กรรมฐานอันนี้เปิ้นฮ้องว่า ปฏิปัตติปู่จา เหมือนศรัทธาเฮาตังหลายวันนี้ได้ปากั๋นมาทำบุญใส่บาตรเข้าวัดฟังธรรมได้ปู่จายังคุณพระพุทธเจ้าทั้งสองประก๋าร บุญก็ย่อมฮักสาเฮาหื้อสุขกาย สุขใจ๋ เมื่อเสี้ยงอายุก็ย่อมไปสู่ที่เย็นบะฮ้อน " 
คำสอนครูบาหม่อนเทศน์สอนศรัทธาในวันพระ
(ข้อความคัดลอกมาจากเฟส ตุ๊จิม ตุ๊เจ้านันต๊ะ เขมาภินนฺโท)

***************************************************************

ขอหื้อเฮาตังหลายกึ๊ดดี ทำดี พูดดี ย่อมมีสุข ธรรมก่จะฮักสาผู้ประพฤติธรรมนั้นตลอดไป  

***************************************************************


ประวัติครูบาดวงดี

               "ดวงดี สมด้วง" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงปู่ครูบาดวงดี  ยติโก เป็นบุตรของพ่อด้วง แม่คำป้อ นามสกุล สมด้วง เกิดที่บ้านฟ่อน หมู่ ๒  ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๗ มีพี่น้องร่วมท้องกันมามี ๔ คน คือ ๑.พ่อหนานเขียว ๒.แม่สา ๓.นางแฮ ๔.หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก พอมีอายุได้ ๑๒ ปี  พ่อด้วง แม่คำป้อ ได้พาเอาเด็กชายดวงดีมาฝากเป็นลูกศิษย์ครูบาอินตา สุทธิโก ได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนกับท่านครูบาอินตาได้หนึ่งปี พออายุได้ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรได้ชื่อว่าสามเณรดวงดี สมด้วง โดยมีพระอธิการคำภีระ เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ ณ ที่วัดวุฑฒิราษฎร์  (บ้านฟ่อน)  เมื่อวันที่ ๑๙ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๗๑

               เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ไม่นิ่งดูดาย และได้ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งปริยัติธรรม จนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ อยู่ต่อมาพออายุได้ ๒๐ ปี ถึงวาระที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนาแล้ว แต่แล้วสามเณรดวงดีได้เกิดอาพาธขึ้นมาเป็นเวลา ๕ ปี พอหายจากอาการอาพาธแล้ว อายุได้ ๒๕ ปี รู้สึกว่าสามเณรดวงดีสบายกายสบายใจแล้ว พ่อด้วง แม่คำป้อ และท่านเจ้าอาวาสก็ได้ปรึกษาหารือกันว่า สมควรแก่เวลา ที่จะอุปสมบทสามเณรดวงดี เป็นพระภิกษุได้แล้วจึงได้อุปสมบทให้เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ โดยมีเจ้าอธิการอินถา อริโย วัดท้าวบุญเรืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโอ๊ด อภิชโย วัดตองกายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอินตา สุทธิโก วัดวุฑฒิราษฎร์ (บ้านฟ่อน) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ยติโก อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดโพธิ (หนองควาย)

               ขณะนั้นครูบาอินตาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านฟ่อนนี้ เมื่อปี ๒๔๗๒ -๒๔๙๒ ในสมัยนั้นมีพระอธิการคำมูล สิริวิชโย และครูบาดวงดี เป็นลูกศิษย์ หลังจากท่านครูบาอินตา มรณภาพลงก็มี พระอธิการคำมูล ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านฟ่อนแทนครูบาอินตาจนมาถึงปี ๒๕๒๕ พระอธิการคำมูล ได้มรณภาพลง หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก จึงได้รักษาการแทนเจ้าอาวาสจนถึงปี ๒๕๓๒ หลวงปู่ท่านก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านฟ่อนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้

               ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมด ตั่งแต่ไปเก็บว่านสมุนไพรต่างๆ ในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้ว หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระ เณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด

               ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ที่มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวัน โดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน

               วัดวุฑฒิราษฎร์  หรือ วัดบ้านฟ่อน ตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๐ หมู่ ๒  บ้านหนองควาย  อ.หางดง จ.เชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ดูรายเอียดประวัติวัด และประวัติครูบางดวงดีเพิ่มเติมได้ที่ "www.duangdeeyatigo.com" และ "www.watbanfon.com"

บารมีดวงดี ๙๙

               ครูบาดวงดี ยติโก เป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระเณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ที่มีศรัทธาญาติโยม มาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด

               ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องยาวิเศษนานาประการ ที่ในสมัยก่อนหลวงปู่ท่านดั้นด้นค้นหายาวิเศษตามป่าเขาในทุกที่เพื่อนำมาปรุงยา อีกทั้งได้นำเอาผงยาวิเศษอันเลื่องลือคือ ว่านไก่แดง มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติธรรม ได้มีไว้บูชาติดตัว จึงนับว่าหลวงปู่ท่านได้นำเอาผงยาวิเศษนี้ มาให้ชนรุ่นหลังได้รู้จัก จนมาถึงทุกวันนี้

               วัตถุมงคล ครูบาดวงดี ยติโก ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย โดยล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ พิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล รุ่น  บารมีดวงดี ๙๙ ฉลองสิริอายุวัฒนะครบ ๙๙ ปี หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก  มีเกจิดังมาร่วมงานหลายท่าน เช่น ครูบาออ ครูบาน้อย ครูบาสุข ครูบาบุญตั๋น ครูบาอินถา ครูบาอินตา ฯลฯ

               วัตถุมงคลครูบาดวงดี ยติโก "รุ่น บารมีดวงดี ๙๙" ทุกองค์ ตอกโค้ด ตอกหมายเลข ประกอบด้วย ๑.พระรูปเหมือนครูบาดวงดี ยติโก หน้าตัก  ๙ นิ้ว ๒.พระกริ่งบารมี ๙๙ เนื้อเงิน ก้นทองแดง  เนื้อนวะ ก้นทองแดง  เนื้อนวะ เทดินไทยเบ้าทุบแบบโบราณ ๓.พระรูปเหมือน ๙๙ เนื้อนวะ เทดินไทยเบ้าทุบแบบโบราณ เนื้อทองฝาบาตร เนื้อนวะ  เนื้อเงิน ๔.ล็อกเกตใหญ่ครูบาดวงดี หลังเหรียญเนื้อทองฝาบาตร ๕.เหรียญบารมี ๙๙ เนื้อเงิน และ ๖.สีหูห้าตา รุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก เนื้อทองฝาบาตร เนื้อนวะ  เนื้อเงิน            

บุญสร้างศาลาบำเพ็ญบุญ

               นายอินถา หลวงใจ กำนันแหนบทองคำ ต.หนองควาย อ.หางดง ประธานกรรมการวัดบ้านฟ่อน บอกว่า วัดบ้านฟ่อนเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคณะศรัทธาชาวบ้านหนองควาย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๓ โดยพระอธิการใจ อภิชโย เป็นผู้นำคณะศรัทธาชาวบ้านแผ้วถางป่าบริเวณที่ตั้งวัดปัจจุบัน ได้ส้างเสนาสนะขึ้นเดิมใช้ชื่อว่า "วัดสันขวางบ้านฟ่อน" อาคารเสนาสนะประกอบด้วย วิหาร อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ รวมทั้งพระบรมธาตุเจดีย์ภายในบรรจุวัตถุโบราณหลายอ่าง

               ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดบ้านฟ่อนมีความเจริญ และได้มีการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ซึ่งเดิมที่มีเพียงศาลาหลังเล็กๆ จากนั้นมีการสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างกุฏิหลวงปู่ รวมทั้ง ห้องน้ำ โดยสำหรับโครงการล่าสุดของวัดบ้านฟ่อน คือ สร้างศาลาบำเพ็ญบุญ ๒ ชั้น โดยชั้นบนจะเป็นที่พักสงฆ์ ส่วนด้านล่างจะใช้เป็นศาลาบำเพ็ญบุญ ซึ่งต้องใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ ๔ ล้านบาท และเพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จคณะกรรมการวัดจึงจัดสร้าง วัตถุมงคลครูบาดวงดี ยติโก "รุ่น บารมีดวงดี ๙๙" ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่วัดจัดสร้าง เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้ร่วมบุญ