www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

รวมธรรม คำสอน หลวงปู่ลี กุสลธโร - เศรษฐีธรรมของหลวงตา
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-09-05 14:58:46

รวมธรรมคำสอน "หลวงปู่ลี กุสลธโร"
 เศรษฐีธรรมของหลวงตามหาบัว
 

"...แก้หัวใจตนเองออกดูสิ..
ตรงไหนมันขัดข้อง ปลดออกๆ

พระพุทธเจ้าให้เจริญสติ
ถ้าสติกลายเป็นมหาสติ
มันจะเห็นหรอก..."

********************************************* 

 "ถ้าเราปฏิบัติจริงๆ เช่นการนั่งสมาธิตลอดรุ่ง มันก็จะรู้จะเห็นได้แน่นอน 
นี่ส่วนใหญ่นั่งนานไปเกิดทุกข์ เวทนาก็กลัวตาย ไม่เอาจริงจัง 
ทั้งที่มันก็เกิดตายมาหลายชาติแล้ว 

ครูบาอาจารย์ท่านก็เคยปฏิบัติ ก็ไม่เคยเห็นมีใครตายจริง 
มีแต่ได้รับผลคือความสงบรวมลงของใจ"

 ********************************************* 

 พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ทำอย่างนั้น...
ท่านตรัสรู้ได้ก็เพราะเจริญอานาปานสติ ดูลมหายใจเข้าออกเท่านั้น
ท่านไม่ให้ออก ให้ดูอยู่นั่น เข้าก็รู้ออกก็รู้อยู่นั่น
ศาสนามันเกิดอย่างนั้น ไม่ได้เกิดเพราะความปรุงความแต่งอะไร

นี่ไม่ดูตนเอง ดูแต่ผู้อื่น ให้มันถูกใจเจ้าของเอง ใครทำอะไรก็ให้ถูกใจเจ้าของเอง
นี่แหละเรื่องกิเลสตัณหา ดูเข้าไปมันจะเห็นเองหรอก

ธรรมของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ภาวนาเอาพุทโธก็จะคิดไปเรื่อยเปื่อย ตามโลกตามสงสาร
ถ้าจิตมันเป็นไปแล้วจ้างให้มันไปมันก้ไม่ไปล่ะทีนี้

ภาวนามยปัญญา นานาจิตตัง
จิตใจของแต่ละคน มันไม่เหมือนกัน
ให้ทำเอานะ ใครจะทำให้กันได้
มีแต่บอกทางเท่านั้น พระพุทธเจ้าท่านมีแต่บอกแนวทางเท่านั้นเอง
ความพากความเพียร มีแต่พวกเราเท่านั้นที่ต้องทำเอาเองหมด

 ********************************************* 

"...บ่ทันนาน คั่นจิตเป็นปัจจุบันอยู่ฮั่น บ่เห็นหนึ่งต้องแนวหนึ่งหละ
มันซิเกิดเฮ็ดให้มันเป็นปัจจุบัน
อดีตที่ล่วงมาแล้ว ก็อย่าไปคำนึงเลย มันก็ออกไปจากปัจจุบันนั่นหละ
อนาคตคือกัน มันออกไปจากปัจจุบันนี่ละ อย่าไปคำนึงมันเลย
คุมมันเข้า 
เบิ่ง ให้เบิ่งหัวใจเจ้าของนั่นละ อย่าไปเบิ่งหัวใจผู้อื่น...

คั่นคุมเจ้าของแท้ๆ ต้องเห็น 

คั่นพิจารณาสภาพร่างกายก็พิจารณาอยู่ฮั่น
แต่พื้นเท้ามาศีรษะ แต่ศีรษะลงมาพื้นเท้า ให้พิจารณาอยู่ฮั่น
เอาแหมะ ๒๔ ชั่วโมงนี่ บ่ให้มันปากมาเลย 

ต้องเกิดแน่... อันนี้หัวใจมันแลนอยู่นำโลกนำสงสารพุ่น
มันบ่ปักมั่น แล้วซิเห็นหยังฮั่น
คือกินข้าวเนี่ย กินนอนอยู่ ย้ายไปนั่น นอนอยู่ก็ไปฮั่น นอนก็ไปนี่ เลยบ่อิ่มจักที นี่เรื่องมัน 

เอ้า พิจารณามนซี คั่นคุมเข้าแท้ๆ มันซิต้องจับได้เงื่อน เดี๋ยวมันซิเกิดอันนั้นเกิดอันนี่โลด

นี่เฮ็ดจริงทำจริงมันต้องรู้จริง... ไอ้ พิจารณาโตนี่ละ โตสำคัญ 

ถ้าหากว่าได้จับจุดได้ละ เออ มันซิออกอุทานบัดทีนี้ 
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อริยสัจทั้งนั้น... 
คั่นตีแตกอริยสัจนี่ได้แล้ว ฮ่วย! กราบพระพุทธเจ้ากราบครูอาจารย์
โอ๊ย มันก็กราบอยู่จังซั่นหละ หมดคืนหละ นี่
เพิ่นเว่าจริงเฮ็ดจริง มันซิประมวลมาหมดดอก
อันพระพุทธเจ้าเพิ่นเห็นนะ มันซิมาเกิดจากใจเฮานี่ละ... 

ให้พากันเร่งความพากความเพียร..."

 ********************************************* 

"เรื่องของใจ ..มันพาให้วุ่น
คิดโน่นคิดนี่ ไปคิดไปติดกับคนนั้นคนนี้

มันเป็นอยู่อย่างนั้น ไม่ดูหัวใจตัวเอง
ถ้าดูหัวใจตัวเองแล้วจะไม่เป็นอย่างนั้น

นี่คิดดูสิ ดีก็อยู่ที่ปากเขา ชั่วก็อยู่ที่ปากเขา
เขาติฉินนินทาก็อยู่ที่ปากเขาโน่น

เราไม่เอามาเป็นอารมณ์ก็ไม่มีอะไร ๆ ล่ะ
คนที่มีธรรมเป็นอย่างนั้นนะ
มีแต่คนไม่มีธรรมนั่นล่ะ ที่วิ่งวุ่นอยู่ตลอดเวลา

หากอบรมแล้ว จิตมันจะลงพรึ่บเลย
ได้กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
กราบครูบาอาจารย์เท่านั้น"

 ********************************************* 

วันหนึ่งคืน หนึ่งให้เร่งความพากความเพียร
การนั่งการนอนก็ให้ฝึกตนเอง

นอนแค่ 
ชั่วโมงก็พอแล้ว ทุ่มไปก็นอนซะ พอตีก็ลุกแล้ว
อยู่กับพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านพาหัดอย่างนั้น
ตอนอยู่บ้านห้วยทราย ท่านแนะนำอย่างนั้น

ถ้าง่วงให้ไปเดินจงกรมเลย เดินจงกรมจนเหนื่อย
ถ้าไม่เหนื่อยแล้วจิตมันไม่อยู่ มันวิ่งตามอารมณ์
ความอยากตัวนั้นล่ะสำคัญ มันดีดอยู่อย่างนั้น

 ********************************************* 

อย่าพากันเล่นมากนะ ครูบาอาจารย์เหลือน้อยลงทุกทีแล้วนะฝ่ายปฏิบัติ
สักหน่อยมันก็จะเป็นทางโลกไปหมดแล้วนะ

อย่างหลวงปู่มั่นท่านได้ทำนายไว้แล้วนะเรื่องศาสนาว่า
“วัดป่ามันจะกลายเป็นวัดบ้าน วัดบ้านจะกลายเป็นคนตาย คนตายจะกลายเป็นบ้า”
ท่านทำนายไว้หมดแล้วนะ

เดี๋ยวนี้ดูสิโลกมันร้อนมากนะ พอได้เข้าหาพระหาเจ้า พอได้เห็นครูบาอาจารย์ จิตใจมันก็สบาย
ดูซิ คนได้เข้าหาครูบาอาจารย์ มันก็สบายเย็นใจ
แค่เห็นวัดเท่านั้นแหละ เห็นกริยามารยาทของครูบาอาจารย์ จิตมันก็สงบสบาย

ถ้าได้ออกไปทางโลก เดี๋ยวก็วิ่งกลับมาทางธรรมอีก เป็นอยู่อย่างนั้นสังเกตดูซิ
ถ้าใจมันไม่ร้อน ไม่วิ่งกลับมาหรอก

วุ่นวายมากนะสมัยนี้ ความเจริญกับความเสื่อมอยู่ด้วยกันนะ จะไปอะไรมากมาย
แต่ขนาดครอบครัวก็แย่งชิงกันเป็นใหญ่ในบ้านแล้ว
เรื่องเป็นเจ้าเป็นนายก็เหมือนกันนะ แย่งชิงเก้าอี้ เพื่อความเป็นใหญ่กันอยู่นั้นแหละ
สักหน่อยก็ปลดออกจากตำแหน่ง สักหน่อยก็แต่งตั้งขึ้นใหม่อยู่อย่างนั้น

โลกนี้คิดไปคิดมาแล้วที่ไหนมันมีความสุข ไม่เห็นมีความสุขนะ
ถ้าคิดใคร่ครวญดูจริงๆ ให้ไปคิดอ่านใคร่ครวญ เข้าไปดูซิ 

 ********************************************* 

ประวัติย่อ

หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี 

ท่านบวชพระเมื่อครั้งงานเผาศพหลวงปู่พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต และเมื่ออุปสมบทได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี” เป็นลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) แม้หลวงตาจะหนีออกวิเวกไปทางไหน หรือจะดุจะว่าจะไล่ให้หนีไปอย่างไรหลวงปู่ลีก็อดทนติดตามไปทุกหนทุกแห่งไม่เลิกไม่ราไม่ท้อถอย 

ท่านเป็นที่อัศจรรย์ในบุญบารมี เมื่อสามารถหาทองคำร่วมถวายช่วยชาติกับหลวงตาได้ถึง 500 กว่ากิโลกรัม ทั้งที่เป็นพระป่ารูปร่างเล็กๆ อยู่ในป่า ไม่มีโวหารเทศนาต้อนรับแขกผู้มาเยือน

ท่านได้รับการยกย่องจากหลวงตาว่าเป็น “เศรษฐีธรรม” และหลวงตามักเรียกนามท่านสั้นๆว่า “ธรรมลี” 



ท่านมีอุปนิสัยพูดแต่น้อย สมถะ เคารพยำเกรงและปฏิบัติตามคำสอนครูบาอาจารย์อย่างหาที่ติมิได้  รักการอยู่ป่าตลอดมา ไม่ติดสถานที่

แต่เมื่อท่านอายุมากเข้า ประจวบกับพระเณรขออยู่ศึกษากับท่านมากขึ้น ท่านจึงยอมอยู่เป็นที่ฐานแน่นอนที่วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ 

 

ปัจจุบันท่านกำลังสร้าง เจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ที่วัดป่าภูผาแดง

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพและเนื้อหาดี ๆ จาก  : 

- เฟซบุ๊ค : พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ภูผาแดงฯ

- เฟซบุ๊ค : ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

- http://www.luangta.us/index.php?lay=show&ac=article&Id=539406733&Ntype=9

- http://www.siammongkol.com/smf/index.php?topic=2031.0#.VAljMfmSzbg

- http://www.eamulet.com/webboard.php?id=501164&cat_w=13&lang=th

- http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=468a4530fa6adbe0

- http://www.phusing.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=348

- http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13088

- http://dhammasawasde.blogspot.com/2013/06/blog-post_3.html