www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

บารมี ๑๐ ทัศ แรงบัลดาลใจในการทำความดี
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-02-17 18:00:31

 
 
ธรรมที่สามารถตั้งเป็นเข็มทิศประจำตัวหรือแรงบัลดาลใจในการทำความดี ซึ่งเป็นเสมือนการสะสมบุญให้ตัวเราเอง คือ การสร้าง บารมี ๑๐ ทัศ
บารมี แปลว่า กำลังใจเต็ม
บารมี ๑๐ ทัศ มีดังนี้*

 

๑. ทานบารมี        จิตพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ ซึ่งทานหรือการให้นี้เป็นการตัดความโลภ
๒. ศีลบารมี          จิตพร้อมในการทรงศีล ซึ่งศีลเป็นการตัดความโกรธ
๓. เนกขัมมบารมี   จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวเท่านั้น การบวชจิต บวชใจในการปฏิบัติธรรมก็อยู่ในหมวดนี้เช่นกัน เนกขัมมะเป็นการตัดอารมณ์ของกามคุณ
๔. ปัญญาบารมี     จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารกิเลสให้พินาศไป ปัญญาเป็นตัวตัดความโง่
๕. วิริยะบารมี        วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ วิริยะเป็นการตัดความขี้เกียจ
๖. ขันติบารมี         ขันติมีทั้งอดทน อดกลั้น ต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ ขันติเป็นตัวตัดความไม่รู้จักอดทน
๗. สัจจะบารมี       สัจจะทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่างในด้านของการทำความดี สัจจะเป็นการตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
๘. อธิษฐานบารมี   ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ เป็นการทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์
๙. เมตตาบารมี     สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น เมตตาเป็นการสร้างความเยือกเย็นของใจ
๑๐. อุเบกขาบารมี  การวางใจเป็นกลาง ๆ ทำให้สามารถปล่อยวางในเรื่องของกายใจได้

         บารมี ๑๐ ทัศไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำได้ เพียงแค่การตั้งใจสวดมนต์ เจริญภาวนาหรือทำกรรมฐานประจำวัน ก็เป็นการสร้างบารมีทั้ง ๑๐ ได้ทั้งหมดในขณะเดียวกัน เพราะขณะที่เราสวดมนต์และทำกรรมฐาน จิตใจมีความตั้งมั่นเป็นสมาธิ ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นการบำเพ็ญที่ประกอบด้วยทาน ศีล และภาวนา อย่างสมบูรณ์พร้อม ซึ่งนำไปสู่ปัญญาในการพิจารณาและเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ขออัญเชิญคำกล่าวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม มาให้พิจารณากันดังนี้

 

 "...ตรงนี้น่าคิด พิจารณาตัวเองเถิด ไม่มีใครเขาทำให้ท่านได้หรอก อาตมาก็ช่วยโยมไม่ได้หรอก เพียงแต่แนะแนวตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เราไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด จะชี้บอกมรรคมรรคาว่านี่ไปสวรรค์ นี่ไปนรก บอกได้เท่านี้ นี่ไปเป็นเปรต อสุรกาย นี่สัตว์เดรัจฉาน ไปสู่อบายมุข นี่ไปทางสู่ทางเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไปทางนี้ ก้าวเสื่อมไปทางนั้น บอกหนทางได้เท่านี้ แผนที่มรรคมรรคา แต่เราจะเดินไปทางไหน แล้วแต่โยมชอบ..."

 ขอท่านทั้งหลายเจริญในธรรม