www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

วัฏจักรแห่งความเสื่อม นำพาสังคมสู่ โมหะภูมิ ที่ไร้ภูมิคุ้มกัน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2013-09-18 09:12:32

ทำไมทุกฝ่ายในสังคมดูจะแย่ลง ๆ เราต้องสาวไปถึงเหตุว่าเพราะขาโรงเรียนไปเตะขาวัฒนธรรมแล้วโยกไปเย้มา บนกระแสคลื่นอันเลวร้าย เชี่ยวกราก ที่พัดกระหน่ำมาเรื่อย สังคมไทยก็ยืนด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าพูดถึงว่าจะก้าวไปข้างหน้าเลย เอาแค่พอประคองตัว ก็ลำบากมากแล้ว เราจะเห็นภาพสะท้อนสังคมไทยได้มาก ๆ ที่เราต่างก็ยอมรับว่า เราติดโรค “บริโภคนิยม” ในระดับที่เข้มข้นรุนแรงมาก ทำไม ? ทำไมสังคมเราเป็นอย่างที่ในหลวงทรงมีพระดำรัสเปรียบเปรยไว้ว่าเป็น “โมหะภูมิ” ทำไมเราจึงเป็นเหมือนดั่งคนที่ “ไร้ภูมิคุ้มกัน” เราเป็นประเทศพุทธศาสนา มีชาวพุทธอยู่มากกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมสังคมอันทันสมัยล้ำยุคอย่างปัจจุบันนี้ มันเลวร้ายมาก เสื่อมทรามมาก อาชญากรรมเยอะ อบายมุขเยอะ สิ่งมอมเมาเยอะ โกงกินคอรัปชั่นมาก โสเภณีมาก ฆ่ากันมาก ขโมยกันมาก เดี๋ยวนี้เริ่มเป็นกันตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็หาทางแก้แบบตาบอดคลำช้าง เป็นพัก ๆ ไป แก้ด้วยทางการเมืองบ้าง ทางเศรษฐกิจบ้าง ด้วยการปฏิรูปการศึกษาที่เป็นกระแสมาจากตะวันตกบ้าง ทางสารพัดนโยบายกิจกรรรมที่สวยหรู แต่สุดท้ายเราก็จะต้องถามหาความยั่งยืน มันไม่เคยแก้อะไรได้จริงจัง แค่พอประทังไว้ ประคองไว้เท่านั้นเอง มันแค่เส้นผมบังภูเขาเท่านั้นเอง

เพราะวัฏจักรแห่งความเจริญที่เราก้าวเดินไปด้วยสองขา ทั้งขาแห่งการเรียนในระบบโรงเรียนและขาวัฒนธรรมเราโดนเตะเดี้ยงไปเสียแล้ว เมื่อก่อนมีวัฏจักรแห่งความเจริญที่หมุนสืบต่อไปในสังคมทุก ๗-๘ วัน มีกระบวนการเรียนรู้ที่งดงามสมบูรณ์อยู่ทุก ๆ วันพระ แต่พอเราเปลี่ยนวันหยุดจากวันโกนวันพระ เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เกิดอะไรขึ้น นอกจากไม่ได้กระบวนการเรียนรู้ที่ดีงามอย่างที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นแล้ว กลับหมุนกลับเป็น “วัฏจักรแห่งความเสื่อม” พอหยุดวันเสาร์อาทิตย์ ก็เป็นวันแห่งการเสพ เสพบริโภคกันอย่างหนัก เป็นวันแห่งความมัวเมาลุ่มหลง เป็นวันที่เราขอหมกมุ่นอยู่ในกระแสหายนธรรมที่ดาษดื่นในสังคมบริโภคนิยมด้วยความเต็มใจ และโฆษณาสะกดจิตเรากันเองให้เป็นค่านิยมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ

วิถีชีวิตอย่างนี้จึงเป็นความสืบต่อแห่งวังวนของหายนธรรม ที่เราเต็มใจเชื้อเชิญให้เข้ามาแย่งชิงโอกาสที่วัฒนธรรมอันดีงามเคยโอบล้อมคนในสังคมอยู่ เราเอาแม่เลี้ยงใจร้ายมาทำลายอ้อมกอดแห่งมารดาคือธรรมะ ที่ครั้งหนึ่งเคยโอบล้อมคนในสังคมอยู่อย่างอบอุ่น เราปล่อยให้หายนธรรมอันเลวร้ายเข้ามาครอบงำคนในสังคม ครูและเด็กในโรงเรียน หมอในโรงพยาบาล พระในวัด หรือแม้แต่เด็กในอ้อมอกของแม่ ยังถูกหายนธรรมเข้ามาครอบงำได้ แม่ตัวจริงที่อุ้มอยู่ได้ตายจากสังคมไทยไปนานกว่า ๓๐–๔๐ ปีแล้ว เป็นภัยที่มองไม่เห็น และยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดจึงจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้เห็นได้

จากกระบวนการเรียนรู้ทางสังคมอันเป็นมรดกอันล้ำค่ายิ่ง ที่เราเคยมีมาตลอด ๒,๕๐๐ กว่าปี ที่พระพุทธเจ้าทรงเมตตาประทานไว้ให้กับมนุษยชาติ และบรรพบุรุษของเราได้ปลูกฝังและสืบต่อกันมา ไม่ขาด.. แต่แล้ว ไอ้ความโง่เขลา ดูเบา และหลงตัวเองว่าฉลาดของลูกหลานเช่นเรา ๆ เพิ่งมาทำลาย ในช่วง ๓๐–๔๐ ปีให้หลังมานี้เอง เราเห็นอะไรบ้างหรือยัง ? เราเห็นจุดแยกแล้วหรือยัง ? เราเห็นเหตุปัจจัยของวัฏจักรแห่งความเสื่อมในระดับสังคมแล้วหรือยัง

ขอบคุณที่มา : http://www.xn--12cy3aghw9aa5az3ba3cwab1h8q.com