www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

ในตัวเรามีคนอยู่สามคน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2012-12-26 14:41:49

 

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง 
หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น 
จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า 
ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ 
แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย 
ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ  
หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า 
เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน 
คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น 
คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น 
คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ 
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา 
คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป 
ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม 
เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง 

เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่า
โลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน 
เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ 
มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น 
บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย 
เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก 
แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ 
จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 
เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ 
อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ 
ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ 
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร
สมัยที่หลวงตายงไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว 
เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง 
ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน 
คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ 

มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม 
เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี 
ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา 
เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ 
นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล 
' แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ 
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา 
' เจ้าต้องทำความเข้าใจ จิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ 
เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น 
แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ 
เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง 
ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด
กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น 
แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม 
' เข้าใจครับหลวงตา ' เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง 
สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม 

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ 
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ 
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ 
สรณะอื่น ไม่มี ชีวิตนี้เพื่อพระรัตนตรัย