ปราสาทสัจธรรม
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 8.2K views



ปราสาทสัจธรรม

 

ปราสาทสัจธรรม ณ บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีในเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ เป็นที่ตั้งของ
สถาปัตยกรรมไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสยามประเทศ สถาปัตยกรรมไม้แห่งนี้ ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า " วังโบราณ " บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารที่สร้างด้วยไม้ว่า " ปราสาทไม้ " แต่เจ้าของความคิดและผู้ดำเนินการก่อสร้างคือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เรียกอาคารแห่งนี้ว่า "ปราสาทสัจธรรม"

ปราสาทสัจธรรม คือ ศิลปสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ ซึ่งเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ และความหมายในด้านนามธรรม ได้สะท้อนและสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและ ปรัชญาซึ่งเป็นสิ่งค้ำจุนโลก และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ปรัญชาในการมุ่งสู่ความหลุดพ้นสู่โลกหน้าในอุดมคติ ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้อุบัติขึ้นจากความสำนึกของคนตะวันออก ที่ว่าความเป็นมนุษย์ที่ผ่านมานับพันปีเป็นสิ่งที่จรรโลงโลกมาได้ด้วยสัจธรรมทางศาสนา และปรัชญาโดยมีศิลปะเป็นสื่อเนื้อหา และความหมายไม่ใช่เป็นสิ่งที่คิดขึ้นใหม่ด้วยความอหังการ์หากได้นำเอาสิ่งที่ดีงามที่มีอยู่ในศาสนา และปรัชญา และศิลปกรรมมาปรุงแต่งให้เหมาะสมกับกาลเทศะ

เจ้าของโครงการและออกแบบโดย คุณเล็ก วิริยะพันธุ์

วันที่ก่อตั้ง 13 สิงหาคม 2524

วัตถุประสงค์ เพื่อเชิดชูความสำคัญของศาสนาปรัชญา ว่าเป็นสิ่งสำคัญค้ำจุนโลกในมิติด้านจิตวิญญาณและความศรัทธาอันแรงกล้าในงานศิลปะที่สื่อถึงจริยธรรม-วัฒนธรรมอันดีงามของการสอนมนุษย์สร้างความดี ละความชั่ว

ลักษณะ เป็นอาคารที่สร้างด้วยไม้แกะสลักทั้งหลัง ทรงไทยจัตุรมุข (มหาปราสาท) ยอดสูงสุดตรงกลาง สูง 105 เมตร กว้าง ด้านละ 100 เมตร ทั้ง 4 ทิศ

วัสดุ เป็นไม้เนื้อแข็งทั้งชิ้น เช่น ไม้ตะเคียนทอง ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้สักทอง ใช้ผสมผสานกันในการก่อสร้าง การรักษาเนื้อไม้ ใช้น้ำยา ซี.ซี.เอ (ทองแดง, ตะกั่ว, สารหนู) โดยทั้งอาคารเป็นไม้ล้วน ไม่มีตะปู แต่ใช้การเข้าเดือย ตอกสลักตอกลิ่ม และเข้าหางเหยี่ยว

เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนา ปรัชญา จริยธรรม อารยธรรม วัฒนธรรมดีงามของชาวเอเชียตะวันออก ซึ่งสะท้อนถึงจริยธรรม วัฒนธรรมหน้าที่ศีลธรรมในอดีตสู่รูปองค์เทพต่างๆ

ด้านทิศตะวันตก (W) เป็นเรื่องราวกำหนดโลกธาตุ ทั้ง 4 ที่สร้างสรรพสิ่งในทางโลกนี้ได้แก่ ลม ไฟ น้ำ ดิน ตามความเชื่อของศาสนาพรหม พุทธ ฮินดู มีเทพเจ้าผู้ทำหน้าที่สร้าง ทำลาย และรักษา อันเป็นภาพสะท้อนให้เป็นความเสมอภาคมนุษย์และสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ซึ่งมีแหล่งกำเนิดทางกายภาพเหมือนกันหมดโดยอาศัยเหตุปัจจัยต่างกันเท่านั้น

ด้านทิศใต้ (S) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระนารายณ์อวตารเป็นพระกฤษณะเรียกว่า กฤษณะอวตารปางที่ 8 สะท้อนให้เห็นมนุษย์จะอยู่ได้ด้วยการเคารพสิทธิ์ ทำหน้าที่ถูกต้องและไม่รบกวนสิ่งแวดล้อมที่ได้รับอิทธิพลจากดวงดาวต่างๆ คือ สรรพสิ่งที่มีชีวิตและธาตุทั้ง 4 และสังคมมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ดังตัวอย่างกฤษณะอวตาร ในคัมภีร์มหาภารตะ "ภควัตคีตา"

ด้านทิศเหนือ (N) เป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ พระมัญชุศรี พระอมิตาพุทธ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร กวนอิม โป๊ยเซียนและเซียนต่างๆ ตามคติของชาวพุทธมหายาน ให้มนุษย์รู้จักการให้แบ่งปันความสุขโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เยี่ยงพฤติกรรมของพระโพธิสัตว์ ด้วยความมีเมตตาต่อกัน มนุษย์จึงต้องเรียนรู้อยู่กับสังคมด้วยการมีสติปัญญาในสังคมเจริญพัฒนาเข้าสู่ปัญญาแห่งการหลุดพ้น

ด้านทิศตะวันออก (E) สร้างให้เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันครอบครัวที่บ่งถึงความรักและความเมตตาที่ต้องเริ่มจากสถาบันครอบครัวเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้อยู่อย่างมีความหมาย โดยมีความรักความเมตตาอันบริสุทธิ์ให้สืบต่อเนื่องไป

ใจกลางปราสาท (CT) เป็นห้องโถงใหญ่มีบุษบกทรงสถูปไม้แกะสลักสูงสง่างาม ไม่มีเทวรูปใดๆ ในช่องประตูทั้ง 4 ด้าน สื่อถึงสัญลักษณ์แห่งความหลุดพ้น อันเป็นอมตะสัจธรรมและเป็นหนึ่งเดียวกับศูนย์กลางของจักรวาล คือ จักรวาลดวงดาวทั้ง 9 ดวง และเหล่านางฟ้า เทวดา เทพเจ้าต่างๆ การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ยังชี้ให้เห็นถึงสวรรค์ที่อยู่ในอก นรกที่อยู่ในใจ และความศรัทธาในความถูกต้องที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความดี คือ ละชั่วทั้งปวง

ยอดหลังคาพรหมสี่หน้า สร้างให้เป็นสื่อถึงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของผู้ปกครอง ทั้ง พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ผู้นำประเทศ และพระเจ้าแผ่นดินที่ตั้งอยู่บนพรหมวิหารธรรม 4 คือ มีเมตตา มีความกรุณา มีมุทิตา มีอุเบกขา ซึ่งจะทำให้แผ่นดินนั้นอุดมด้วยมงคลอันประเสริฐ มีความเจริญรุ่งเรือ คือ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง

ศาสนาในโลกนั้นเกิดขึ้นจากมนุษย์ด้วยเหตุผลว่าไม่มีกลไกใดๆ ในเชิงวิทยาศาสตร์ที่จะสามารถควบคุมจิตใจของมนุษย์ได้นอกจากความ "พอ" และ "ศรัทธา" ก็เพราะต้องอาศัยกำลังศรัทธาอย่างแรงกล้า พร้อมทั้งความอดทนต่อสภาพจิตใจและต่อธรรมชาติเป็นอย่างมากจึงจะรู้จักความพ้นทุกข์อย่างแท้จริง

บุษบกซึ่งเป็นศูนย์กลางของปราสาท เรียบง่ายว่างเปล่าประหนึ่งบุษบกองค์นี้หลุดลอยอยู่ในจักรวาลที่บุคคลทั่วไปสามารถมีสิทธิ์เสมอเทียบเท่าเหล่าเทวดา หรือเทพเจ้า และสามารถนั่งได้ในทั้ง 4 ทิศ เมื่อบุคคลนั้นบำเพ็ญคุณธรรมความดีอย่างต่อเนื่องจนบรรลุธรรมวิเศษ คือการหลุดจากเหตุปัจจัยในการเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป นี่คือความสุขอันแท้จริง

ยอดบนปราสาท 4 ทิศ และยอดสูงสุดเป็นสัญลักษณ์สะท้อนให้เห็นพันธกิจอันสำคัญของมนุษย์คือ

ยอดทิศตะวันออก (E) เทพีถือพระคัมภีร์ หมายถึงหน้าที่ในการสืบต่อเนื่องปรัชญาของศาสนาเพื่อให้มนุษย์มีทิศทางดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง

ยอดทิศเหนือ (N) เทวดาถือดอกบัว หมายถึงหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลต่อส่วนรวมจากคำสอนของศาสนาคือการสืบต่อศาสนาให้อยู่ในโลกต่อไป

ยอดทิศตะวันตก (W) เทพีถือรวงข่าวและนกพิราบเกาะแขน หมายถึงหน้าที่ต้องรักษาความอุดมสมบูรณ์เพื่อสันติสุขแห่งชาวโลก

ยอดทิศใต้ (S) เทวดาจูงเด็กและคนชรา หมายถึง หน้าที่ต้องสืบทอดเจนารมณ์ดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ให้ต่อเนื่อง ตั้งอยู่บนความเป็นมนุษยธรรม

ยอดสูงสุดตรงกลาง เทวดาทรงม้า หมายถึง หน้าที่ทั้ง 4 ยอดเล็ก รวมเป็นหนึ่งเดียวดั่งมหาวีรบุรุษ ที่ให้มวลมนุษยชาติสู่โลกอนาคตอย่างมีเป้าหมาย คือ ความสงบสุข สันติของโลก สถานที่แห่งนี้ปรารถนาให้มวลมนุษย์ได้ตระหนักถึงสัจธรรมแห่งชีวิต ตั้งจิตเพื่อฟ้าดิน มีชีวิตเพื่อมนุษยชาติ สืบต่อวิทยาการสุดยอดจากปราชญ์ในอดีตและสร้างสันติสุขชั่วกาลนานแห่งมนุษยชาตินี้ คือเป้าหมายอันแท้จริงที่ศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ต้องการบรรลุ

แผนที่การเดินทาง

The Ancient : City Co.,Ltd. ( Pattaya office )
ที่อยู่ : 206/2 หมู่ 5 นาเกลือ 12 ถ.นาเกลือ บางละมุง ชลบุรี 20150
โทรศัพท์ : +660-3836-7229, +660-3836-7230, +660-3836-7815
โทรสาร : +660-3836-7845
E-mail : info@sanctuaryoftruth.com 

The Ancient City Co.,Ltd. ( Bangkok office )
ที่อยู่ : 62-74 3Bldg., ถ.ราชดำเนินกลาง, บวรนิเวศ, พระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์ :+660-2622-3591-2
โทรสาร : +660-2622-3593
E-mail : info@sanctuaryoftruth.com

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ปราสาทสัจธรรม
ดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanctuaryoftruth.com