พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะ พ.ร.บ. นี้จะช่วยคุ้มครองข้อมูลของเราให้เป็นไปในทิศทางที่เจ้าของข้อมูลต้องการเท่านั้น หน่วยงานหรือองค์กรใดที่นำข้อมูลเราไปใช้โดยที่เราไม่ยินยอมจะมีความผิดทางกฎหมายทันที ดังนั้น หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ จึงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของผู้บริโภคมากขึ้นนั่นเอง
สำหรับการถ่ายภาพติดบุคคล หากภาพถ่ายนั้นถูกนำไปทำให้เกิดความเสียหาย อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายว่าด้วยการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมี PDPA
PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองส่วนบุคคล คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่ระบุให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานภาครัฐ ต้องไม่นำเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ ที่บุคคลนั้นไม่ยินยอม
ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม หมายรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ดังนี้ไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
1. ชื่อ-นามสกุล
2. เบอร์โทรศัพท์ อีเมลส่วนตัว ที่อยู่
3. เลขบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขใบอนุญาตขับขี่
4. ทะเบียนรถยนต์ ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน ทะเบียนสมรส
5. วุฒิการศึกษา ข้อมูลทางการศึกษาต่าง ๆ
6. ข้อมูลการเงิย ข้อมูลการแพทย์
7. วันเดือนปีเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก สัญชาติ
8. Digital Footprint ที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น username, password, ip address เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
1. เชื่อชาติ เผ่าพันธุ์
2. ความคิดเห็นในแพลทฟอร์มต่าง ๆ
3. พฤติกรรมทางเพศ
4. ข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น การฉีดวัคซีน โรคประจำตัว
5. ข้อมูลสหภาพแรงงาน
6. ข้อมูลพันธุกรรม
7. ประวัติอาชญากรรม
9. ข้อมูลชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ แบบจำลองใบหน้า เป็นต้น
*สำหรับ ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หากมีการรั่วไหลออกไป จะมีการลงโทษที่รุนแรงกว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เพราะข้อมูลส่วนนี้จะส่งผลเสียต่อบุคคลเจ้าของข้อมูลมากที่สุด
ภายใต้ พ.ร.บ. นี้เจ้าของข้อมูล (Data Subject) หรือผู้บริโภคมีสิทธิควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้ ดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่ได้ให้ความยินยอมไว้
2. สิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบรายละเอียด (Privacy Notice)
3. สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
4. สิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6. สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
7. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
8. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
1. โทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 1 ปี และหรือ ปรับสูงสุด 1 ล้านบาท
2. โทษทางแพ่ง จ่ายค่าสินไหมไม่เกิน 2 เท่าของค่าสินไหมที่แท้จริง
3. โทษทางปกครองปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท