ยุงเป็นพาหะของการเกิดโรคที่สําคัญ ได้แก่ ยุงลายเป็นพาหะนําโรคไข้เลือดออก ยุงก้นปล่องเป็นพาหะนําไข้มาลาเรีย ยุงรําคาญนําโรคไข้สมองอักเสบ ยุงลายเสือ และยุงอีกหลายชนิดเป็นพาหะโรคเท้าช้าง ที่ยังคงเป็นปัญหาของประเทศในเขตร้อน รวมทั้งประเทศไทยที่มีสภาพอากาศเหมาะแก่การแพร่กระจายพันธุ์ จึงต้องมีการควบคุมทั้งแหล่งกําเนิด และทําลายยุง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค การป้องกันไม่ให้ยุงกัดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กัน จึงมีการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ไล่ยุง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารสังเคราะห์ เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมทั้งทําลายสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันประเทศเหล่านี้เป็นแหล่งของพืชสมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการป้องกัน และกําจัดแมลงได้ ปัจจุบันจึงมีการศึกษาและใช้สารจากธรรมชาติในการป้องกันยุงกัดมากขึ้น ได้แก่ สารสกัดจากสมุนไพรที่มีกลิ่น จากน้ำมันหอมระเหย (essential หรือ volatile oils) สารป้องกันยุงที่ได้จากธรรมชาติมีข้อดีกว่าสารเคมีสังเคราะห์ที่ไม่สะสมเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นเวลานาน และไม่ทําลายสิ่งแวดล้อมและกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาของพืชและสัตว์ สารจากธรรมชาติจึงปลอดภัยต่อผู้ใช้ นอกจากนี้มักมีความจําเพาะกับชนิดของยุงด้วย
น้ำมันหอมระเหยจากพืชในสกุล Cymbopogon ได้แก่ ตะไคร้ชนิดต่าง ๆ มีฤทธิ์ป้องกันยุงได้หลายชนิด เช่น ยุงก้นปล่อง ยุงลาย และยุงรําคาญ
ตะไคร้หอม (Cymbopogon nardus (L.) Rendle)
มีการศึกษาฤทธิ์ไล่ยุงของตํารับน้ำมันตะไคร้หอม (citronella oil) ที่มีส่วนประกอบที่สําคัญคือ citronella,geraniol และ citronellol ในรูปแบบของครีม พบว่าตํารับที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 17 % ป้องกันยุงลายได้นานประมาณ 3 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 14% ลดจํานวนยุงรําคาญที่มาเกาะภายใน 1 ชั่วโมงหลังทาครีม
นอกจากนี้สารสกัดเอทานอลของตะไคร้หอมผสมกับน้ํามันมะกอกสามารถไล่ยุงลาย และยุงรําคาญได้นาน 2 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันหอมระเหยจากใบตะไคร้หอมที่ความเข้มข้น 1.25 2.5 และ 5.0 % ป้องกันยุงก้นปล่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่ความเข้มข้น 10% ให้ผลได้นานกว่า 4 ชั่วโมง
การศึกษาเปรียบเทียบฤทธิ์ของน้ำมันหอมระเหยจากพืชกลุ่มนี้ 5 ชนิด ได้แก่ แมงกะแซง (O.americanum L.) โหระพา (O. basilicum L.) แมงลัก (O. africanum Lour. ExH) ยี่หร่าหรือโหระพาช้าง (O. gratissimum L.) และกะเพรา (O. tenuiflorum L.) พบว่ามีฤทธิ์ทั้งฆ่าลูกน้ำและไล่ยุงลายได้ ฤทธิ์ฆ่าลูกน้ำยุงลายของน้ํามันหอมระเหย เรียงลําดับดังนี้ โหระพา > ยี่หร่า> กะเพรา > แมงลัก = แมงกะแซง โดยมีค่าความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่ให้ผลป้องกันยุงได้90% (EC90) เท่ากับ 113 184 240 279 และ 283 ppm ตามลําดับ สําหรับฤทธิ์ไล้ยุงของน้ำมันหอมระเหยที่ความเข้มข้น 10 % พบว่า โหระพาช้างมีฤทธิ์แรงที่สุด ป้องกันยุงกัดได้นาน 135 นาทีรองลงมาคือ กะเพรา และแมงลัก ที่ป้องกันยุงกัดได้นาน 105 และ 75 นาทีตามลําดับ ขณะที่แมงกะแซง และโหระพาให้ผลน้อยที่สุดเพียง 15 นาที
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ในรูปของแท่งทา ครีม และสเปรย์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันแมงลัก และแมงกะแซง มีผลในการไล่ยุงลาย และป้องกันยุงได้
มะกรูด (Citrus hystrix DC.)
น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูดมีฤทธิ์ป้องกันยุงได้นาน 95 นาที และตํารับยาทากันยุงที่มีน้ํามันมะกรูดความเข้มข้น 25 และ 50 % สามารถไล่ยุงได้นาน 30 และ 60 นาทีตามลําดับ น้ำมันหอมระเหยผสมจากมะกรูด 5 % และ จากดอกชิงเฮา (Artemisia annua L.) 1 % ป้องกันยุงลาย ยุงก้นปล่อง และยุงรําคาญได้นาน 180 นาทีในห้องปฏิบัติการ ในความเข้มข้นเดียวกันสามารถป้องกันยุงลาย และยุงเสือ ได้ 180 นาที และยุงรําคาญได้นานถึง 240 นาทีในภาคสนาม
มะนาวฝรั่ง (Citrus limon (L.) Burm.f.)
น้ำมันหอมระเหยจากมะนาวฝรั่งมีฤทธิ์ไล่ยุงก้นปล่องได้ 0.88 เท่าของสารเคมีสังเคราะห์ N,N-diethyl-3-methylbenzamide
นอกจากสมุนไพรที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีการศึกษาฤทธิ์ในการป้องกันยุง ได้แก่ ข่า ไพลขึ้นฉ่าย ว่านน้ำ กานพลูหนอนตายหยาก ดอกกระดังงาไทย สารไพรีทรัม (pyrethrum) และไพรีทริน (pyrethrins) ที่พบได้ในพืชตระกูลดอกเบญจมาศ (chrysanthemum flowers) เป็นต้น จะเห็นว่าสมุนไพรที่มีศักยภาพในการไล่ยุงเป็นพืชที่พบ และปลูกได้ทั่วไป สามารถเตรียมไว้ใช้เองในครัวเรือนหรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น น้ำมันหอมระเหยสมุนไพรนํามาผลิตเป็นครีมหรือโลชั่นป้องกันยุง สเปรย์ไล่ยุง หรือยาจุดกันยุงจากผงสมุนไพร ดังนั้นจึงควรมีการสนับสนุน และส่งเสริมในระดับอุตสาหกรรม เพื่อเปฌนการเพิ่มมูลค่าของสมุนไพร ปลอดภัยต่อร่างกาย ลดอันตรายจากการใช้สารเคมี และเป็นการช่วยลดการแพร่กระจายของโรคต่าง ๆ ที่มียุงเป็นพาหะนําโรค