ภาษาจีน ม. ปลาย หลักการและข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับคำกริยาในภาษาจีน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
06 ส.ค. 64
 | 13K views



หลักการและข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับคำกริยาในภาษาจีน

动词

 

                  เคยมีนักเรียนหลายคนถามผมว่าต้องท่องคำกริยาและคำต่าง ๆ สารพัดในภาษาจีนเป็นจำนวนกี่คำ เราถึงจะสอบได้คะแนนดี?   แน่นอนผมต้องตอบอย่างไม่โกหกว่าถ้าพจนานุกรมทั้งเล่มที่คุณซื้อมาใช้  คุณสามารถท่องได้หมด  คุณย่อมได้คะแนนที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คุณทำได้ไหม?  ฉะนั้นจุดประสงค์ที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นไม่ใช่เพื่อให้นักเรียนเข้าใจผิดว่า ท่องเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ให้หมดแล้วคะแนนสอบจะดี  หรือหนังสือเล่มนี้คือเนื้อหาทั้งหมดของข้อสอบ หรือหนังสือเล่มนี้เก็งข้อสอบได้ราวกับหยั่งรู้อนาคต มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ!  หากแต่สิ่งที่ผมตั้งใจจะถ่ายทอดลงในหนังสือเล่มนี้คือ ประสบการณ์การทำโจทย์และข้อสังเกตเกี่ยวกับภาษา  ในฐานะที่ผมเป็นคนจีนคนหนึ่งที่อ่านพูดเขียนภาษาไทยได้เท่าๆกับคุณ และปัจจุบันผมถือสัญชาติไทย  พูดให้ถูกคือเป็นคนไทยที่อ่านพูดเขียนจีนได้เท่าๆกับคนจีน  ผมหยิบยื่นคำไทยที่แปลได้ตรงกับคำจีนและความเข้าใจง่ายๆให้กับนักเรียน  เพื่อว่านักเรียนสามารถทำโจทย์อย่างรอบคอบ  คนที่ทำข้อสอบได้นั้นไม่ได้มีแต่คนที่ความรู้มากหรือรู้หมดเสมอไป   ต้องรวมถึงคนที่พลาดน้อยที่สุดด้วย  สิ่งหนึ่งที่นักเรียนพลาดได้ง่ายที่สุดก็คือคำกริยานี่เอง  เพราะคำกริยานั้นค่อนข้างหลายหลายและคำที่มีความหมายคล้ายก็มีเยอะ  ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของบทเรียนนี้คือความช่างสังเกตนั่นเอง    ซึ่ง่ผมรวบรวมข้อสังเกตที่น่าสนใจ  จำง่าย และออกสอบแน่ ๆ ไว้ในเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

ประโยชน์ของการจำแนกประเภทของกริยา

                  ทำไมเราต้องแบ่งประเภทกริยา?  ก็เพราะว่ามันมีไวยากรณ์(การจัดระเบียบและลำดับของภาษา)ที่แตกต่างกันครับ  ซึ่งในข้อสอบมักจะทดสอบความรู้เกี่ยวกับประเภทของกริยาในประเด็นที่จะอธิบายดังต่อหัวข้อต่อไปนี้

 

1. กริยา ++ คำคุณศัพท์    และ    คำคุณศัพท์ +  地 + กริยา

 เราถูกสอนให้ท่องกฎไวยากรณ์ข้อนี้อยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ   รูปประโยคที่เชื่อมด้วย  得(de)  เราถูกสอนให้ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองว่าต้องใช้สูตรนี้     กริยา + 得 + คำคุณศัพท์  เช่นประโยคดังต่อไปนี้

 

                  这菜做得好。                                   

                  (ต. 這菜做得好。)

                  Zhè cài zuò de hǎo。   

                  กับข้าวจานนี้ทำได้ดี

 

                  这幅画画得很逼真。                 

                  (ต. 這幅畫畫得很逼真。)

                  Zhè fú huà huà de hěn bī zhēn 。   

                  ภาพนี้วาดได้สมจริงมาก

 

                  故事描写得很动人

                  (ต. 故事描寫得很動人。)

                  Gù shì miáo xiě de hěn dòng rén 。        

                  เรื่องราวเขียนบรรยายได้กระทบความรู้สึกมาก

 

                  * คำว่า 得  ในที่นี้เทียบเท่ากับคำเชื่อมคำว่า “ได้” ในภาษาไทย  เช่น  ทำได้ดี  วิ่งได้เร็วฯลฯ

                  แต่พอนักเรียนเจอประโยคต่อไปนี้ก็จะงงทันทีว่าทำไมมีกริยามาปรากฏอยู่หลัง得ล่ะ?  เพราะกฎที่มีอยู่คือ  หน้า得เป็นกริยา ส่วนข้างหลัง得เป็นคำคุณศัพท์   นักเรียนคงลืมไปว่านี่วิชาภาษาไม่ใช่วิชาคณิตศาสตร์ถึงได้มีแค่คำตอบเดียวในหนึ่งสมการ  บ่อยครั้งที่เราพบคำกริยาวางอยู่หลัง 得 ฉะนั้นจึงเกิดประเด็นความรู้ที่ว่ากริยาแบบไหนล่ะที่วางหลังได้?  ดูตัวอย่าง

     

                  菜那么多你还吃得下 ,真厉害!

                  (ต. 菜那麽多你還吃得下 ,真厲害! )

                  Cài nǎ me duō nǐ hái chī de xià ,zhēn lì hài。

                  กับข้าวเยอะขนาดนี้คุณยังกินไหว เก่งจริงๆ!

     

                  路还远呢 ,你走得来吗?                          ทางยังอีกไกลนะ  คุณเดินมาไหวหรือ?

                  (ต. 路還遠呢 ,你走得來嗎?)

                  Lù hái yuǎn ne ,nǐ zǒu de lái ma?

 

                  太贵了!要当富翁才买得起呀!         แพงเกินไป!  ต้องเป็นเศรษฐีถึงจะซื้อไหว!

                  (ต. 太貴了!要當富翁才買得起呀!)

                  Tài guì le!yào dāng fù wēng  cái mǎi de qǐ yā!  

     

                  สังเกตไหมครับว่า  คำว่า 下、来、起  ล้วนเป็นกริยา  แต่กลับสามารถวางหลัง得ได้  และสื่อความหมายในเชิงความเป็นไปได้ของการกระทำ   เช่น กินไหว   เดินไหว   ซื้อไหว     สิ่งที่นักเรียนต้องรู้ให้ได้คือ  กริยาประเภทไหนที่ใช้ในกรณีนี้ได้    คำตอบก็คือ   กริยาประเภทบ่งบอกทิศทาง  เช่น 上、下、起、來 และ กริยาประเภทบ่งผลของการกระทำ   เช่น 倒、成、完   ดูตัวอย่าง

 

                  得倒   tuī de dào        ผลักให้ล้มได้ (ผลักไหว)     推不倒   tuī bù dào          ผลักให้ล้มไม่ได้ (ผลักไม่ไหว)

                  得上   kàn de shàng    ดูขึ้น (ดูแล้วรู้สึกชอบ)       看不上   kàn bù shàng      ดูไม่ขึ้น (ดูแล้วรู้สึกแย่)         

                  买得到   mǎi de dào       หาซื้อได้ (มีขาย)              卖不到   mài bù dào         หาซื้อไม่ได้ (ไม่มีขาย)

                  得上   pá de shàng     ปีนขึ้นไปไหว                  爬不上   pá bù shàng        ปีนขึ้นไปไม่ไหว

 

                  คราวนี้มาถึงเรื่องของคำเชื่อมคำว่า地(de)  บ้าง  โดยปกติแล้วหน้าคำว่า地 ต้องเป็นคำคุณศัพท์  เช่น เดินอย่างช้า ๆ  ภาษาจีนพูดว่า慢慢地走 ; กินอย่างไม่รีบไม่ร้อน ภาษาจีนพูดว่า慢条斯理地吃 แต่พอมาถึงประโยคตัวอย่างที่แหกกฎ  เราพบว่าคำว่าเสียใจ 伤心 ; กลัว害怕 ; คิดถึง想念 คำเหล่านี้เป็นคำกริยา และในขณะเดียวกันตัวมันเองก็ใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้ด้วย  ลองดูวิธีการใช้ดังนี้เราจะเข้าใจเอง

 

ใช้เป็นคำกริยา ใช้เป็นคำคุณศัพท์
我在伤心。             ฉันกำลังเสียใจ 我很伤心。          ฉันเสียใจมาก
孩子害怕陌生人。   เด็กกลัวคนแปลกหน้า 孩子很害怕。       เด็กกลัวมาก

 

 

                  他伤心地哭了。 

                  (ต. 他傷心地哭了。)

                  Tā shāng xīn dì kū le。

                  เขาร้องไห้ด้วยความเสียใจ

 

                  孩子害怕地大喊大叫起来。                      

                  (ต. 孩子害怕地大喊大叫起來。)

                  Hái zi hài pà dì dà hǎn dà jiào qǐ lái。 

                  เด็กน้อยเริ่มร้องโวยวาย้วยความหวาดกลัว

 

                  大家想念地唱起校歌。

                  Dà jiā xiǎng niàn dì chàng qǐ xiào gē。                     

                  ทุกๆ คนเริ่มร้องเพลงประจำโรงเรียน้วยความคิดถึง

 

                  * * คำว่า 地  ในที่นี้เทียบเท่ากับคำเชื่อมคำว่า “ด้วยความ / อย่าง” ในภาษาไทย เช่น วิ่งด้วยความดีใจ  กระโดดอย่างช้าๆ ฯลฯ

สรุป           คำกริยาที่สามารถวางไว้หน้า ได้ จะเป็นคำกริยาเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด เนื่องจากคำเหล่านี้ปกติใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้อยู่แล้ว

 

                  ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้รูปคำซ้ำของคำคุณศัพท์ในโครงสร้าง และ   ประการแรก  ถ้าเป็นโครงสร้าง得 คำคุณศัพท์มักจะมีสี่พยางค์  ถ้าเดิมทีคำนั้นมีแค่สองพยางค์เราก็สามารถเพิ่มโดยการซ้ำคำ  ความจริงลักษณะนี้ก็คล้ายๆกับการเพิ่มพยางค์เพื่ออรรถรสของภาษาในภาษาไทย  อย่างคำว่าสะอาดก็เพิ่มเป็นสะอาดสะอ้าน  อร่อยเพิ่มเป็นเอร็ดอร่อยฯลฯ    ลองดูตัวอย่างดังต่อไปนี้

                  跑得很快       เป็น    跑得很快很快               วิ่งได้เร็วจี๋

                  打扫得干净   เป็น    打扫得干干净净          เก็บกวาดได้สะอาดเอี่ยมอ่อง

                  得很乱        เป็น    搞得乱七八糟               ทำจนเละตุ้มเปะไปหมด

 

      ส่วนในโครงสร้างคำคุณศัพท์ที่วางหน้จะต้องมีอย่างน้อย 2 พยางค์  ฉะนั้นหากคำคุณศัพท์ตัวนั้นเดิมทีมีแค่พยางค์เดียว  เราก็ต้องใช้คำซ้ำ

 

                  慢慢地站起来    ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ

                  好好地做功课    ทำการบ้านอย่างตั้งใจ  (好好ในที่นี้หมายถึงตั้งอกตั้งใจ)

      * เราไม่พูดว่า 慢地站起来 ; 好地做功课 เพราะอย่างน้อยคำคุณศัพท์หน้า 地  ต้องมีสองพยางค์

 

2. กริยาที่ใช้ขยายหน้ากริยาหรือคำคุณศัพท์ประเภท  การ..../ความ...  เท่านั้น

                  ก่อนอื่นอยากอธิบายนิดหนึ่งว่าในภาษาไทยเรา  เราสามารถเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามได้โดยการเพิ่มคำว่า “การ” หรือ “ความ” ไว้หน้าคำกริยา  เช่น  การกิน  การเดิน  การวิ่ง  การร้องไห้ ฯลฯ  แต่ในภาษาจีนนั้นกริยาสามารถใช้เป็นคำนามได้โดยไม่ต้องเพิ่มคำนำหน้าหรือผันรูปเลย (โดยเฉพาะคำกริยาประเภทสองพยางค์หรือมากกว่าสองพยางค์)   ลองดูตัวอย่างคำประสมที่เป็นกริยาดังต่อไปนี้

คำประสมที่เป็นกริยา ความหมายในคำกริยา ความหมายในคำนาม
学习 (ต.學習) เรียน / ศึกษา การเรียน / การศึกษา
行动 (ต.行動) เคลื่อนไหว  ความเคลื่อนไหว
攻击(ต.攻擊) โจมตี การโจมตี
损伤 (ต.損傷) สร้างความเสียหาย / บั่นทอน ความเสียหาย  การบาดเจ็บ

                  เราจะพบว่าในภาษาจีนมีกริยาประเภทหนึ่งที่ใช้คู่กับคำนามประเภท “การ” หรือ “ความ” นั่นคือกริยาประเภทที่เกี่ยวกริยาประเภทจัดลำดับขั้นตอน (เริ่มต้น จัดตั้ง ดำเนินการ สิ้นสุด)   ตัวอย่างเช่น

 

                  我开始工作了。                  ผมเริทำงานแล้ว

                  (ต. 我開始工作了。)

                  Wǒ kāi shǐ gōng zuò le。

     

                  双方进行比赛。                  ทั้งสองฝ่ายดำเนินการแข่งขัน

                  (ต. 雙方進行比賽。)

                  Shuāng fāng jìn xíng bǐ sài 。

 

                  感到失望。                    ผมรูสึกผิดหวัง

                  (ต. 我感到失望。)

                  Wǒ gǎn dào lǎo shī de shī wàng。

 

                  ส่วนอีกกรณีหนึ่งตัวกริยาจะตามด้วยภาคแสดงที่เน้นที่การกระทำหรือไม่ก็ตามด้วยคำคุณศัพท์ (นึกว่า...  รู้สึก...  กะว่า...  มีความเห็นว่า...  ฯลฯ)  เช่นตัวอย่างต่อไปนี้

 

                  家长们打算来找班主任。                             เหล่าผู้ปกครองกะวจะมาเข้าพบครูประจำชั้น

                  (ต. 家長們打算來找班主任。)

                  Jiā zhǎng men dǎ suàn lái zhǎo bān zhǔ rèn 。       

 

                  会长认为太浪费了。                                       ประธานสมาคมมีความเห็นว่าสิ้นเปลืองเกินไป

                  (ต. 會長認為太浪費了。)

                  Huì zhǎng rèn wéi tài làng fèi le。

 

                  我感到有什么不对劲儿!                             ผมรู้สึกว่มีบางอย่างผิดปกติ

                  (ต. 我感到有什麽不對勁儿!)

                  Wǒ gǎn dào yǒu shén mo bú duì jìn’er!

 

3. กริยาที่ไม่มีกรรมตามหลัง

                  กริยาประเภทนี้มักจะบ่งบอกการกระทำและเหตุการณ์ชัดเจนอยู่แล้ว  ทำให้การเติมกรรมตามลงไปจะกลายเป็นความฟุ่มเฟือย  ฉะนั้นจึงไม่มีกรรมตามหลัง   เช่นตัวอย่างต่อไปนี้

                  大家休息。                                                ทุกคนพักผ่อน                     

                  今年我毕业。(ต.今年我畢業)                 ผมสำเรจการศึกษาปีนี้

                  大家见面。(ต.大家見面)                          ทุกคนเจอหน้ากัน  

                  军队前进。(ต.軍隊前進)                          กองทัพเดินหน้า

                  他们失败。(ต.他們失敗)                          พวกเขา่ายแพ้                    

                  我们出发。(ต.我們出發)                          พวกเราออกเดินทาง

 

4. การซ้ำของกริยา

                  จำง่ายๆการซ้ำกริยาเมื่อเทียบกับภาษาไทยก็เหมือนกับ  กริยาตามด้วยคำว่า “สักหน่อย” เช่น 试试ลองสักหน่อย  ;   走走เดินสักหน่อย  ; 讲讲เล่าสักหน่อย ฯลฯ   ดูประโยคตัวอย่างต่อไปนี้

 

                  试试好不好穿?              

                  (ต.你試試好不好穿? )

                  Nǐ shì shì hǎo bù hǎo chuān?   

                  คุณลองหน่อยว่าใส่สบายไหม

 

 

                  我跟你商量商量

                  Wǒ gēn nǐ shāng liàng shāng liàng。

                  ผมปรึกษากับคุณสักหน่อย

       

                  我得教训教训他。             

                  (ต.我得教訓教訓他。)

                  Wǒ dei jiào xùn jiào xùn  tā。        

                  ผมจะต้องสังสอนเขาสักหน่อย

 

                  ส่วนการเติมคำว่า 看ไว้หลังกริยาที่ซ้ำกัน  เมื่อเทียบกับภาษาไทยแล้วก็เหมือนกับการเติมคำว่า “ดู” หน้าคำว่า “สักหน่อย”   เช่น   试试看ลองดูสักหน่อย  ;  尝尝看ชิมดูสักหน่อย ฯลฯ   ดูประโยคตัวอย่างต่อไปนี้

 

                  走走看路有多远。           

                  (ต. 你走走看路有多遠。)

                  Nǐ zǒu zǒu kàn lù yǒu duō yuǎn。

                  คุณลองเดินดูสักหน่อยซิว่าทางมันไกลแค่ไหน

 

                  听听看是不是他。           

                  (ต. 你聽聽看是不是他。)

                  Nǐ tīng tīng kàn shì bú shì tā。     

                  คุณฟังดูสักหน่อยว่าใช่เขาหรือไม่

 

                  好!我帮你查查看。           

                  (ต. 好!我幫你查查看。)

                  Hǎo!wǒ bāng nǐ chá chá kàn。

                  ได้เลย!  ผมจะช่วยคุณตรวจดูสักหน่อย

 

5. กริยาที่ส่งผลให้กรรมกระทำ (ทำหน้าที่เป็นบุพบท)

                  ผมไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วยภาษาที่วิชาการมากเกินไป   เพราะเรื่องนี้เป็นเนื้อหาส่วนที่นักเรียนขยาดที่สุดเนื้อหาหนึ่งก็ว่าได้    นักเรียนหลายคนปวดหัวกับการทำความเข้าใจคำว่า 把、让 และอีกหลายๆคำที่อยู่ในเนื้อหาบทนี้    เพราะประการแรกเลยผมเชื่อว่านักเรียนแทบทุกคนเคยสงสัยว่าสองประโยคต่อไปนี้ต่างกันอย่างไร 

 

                  我做功课了。Wǒ zuò gōng kè le。  我把功课做了。Wǒ bǎ gōng kè zuò le。

     

                  คำแนะนำคือ คำว่า把 แปลเป็นภาษาไทยนั้นตรงกับคำโครงสร้าง “เอา...ไป...... ”   ซึ่งเป็นโครงสร้างประโยคแบบหนึ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย    เช่นตัวอย่างต่อไปนี้

 

                  把功课做了。               

                  (ต. 我把功課做了。)

                  Wǒ bǎ gōng kè zuò le。                                 

                  ผมเอาการบานไปทำแล้ว                 (“เอา”  ในที่นี้หมายถึง  หยิบ)

                                                                                                                  

                  姐姐把妹妹骂哭了。                                   

                  (ต. 姐姐把妹妹罵哭了。)

                  Jiě jiě bǎ mèi mèi mà kū le。                 

                  พี่สาวเอานองสาวไปด่าว่าจนร้องไห้                                  (“เอา”  ในที่นี้หมายถึง  เรียก)

 

                  弟弟把他当偶像。                                         

                  (ต. 弟弟把他當偶像。)

                  Dì dì bǎ tā dāng ǒu xiàng 。                          

                  น้องชายเอาเขาเป็นแบบอย่าง                                            (“เอา” ในที่นี้หมายถึง ยึดถือ)

 

สรุป    ในความเป็นจริง把ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น

       1. ทำหน้าที่คำนาม ในคำว่า 楼梯把 (ต. 樓梯把) ราวบันได ; 扫把 (ต. 掃把) ไม้กวาด (把 แปลว่า ด้าม หรือราวจับ)

       2. ทำหน้าที่คำกริยา เช่น 他把着桌子 เขายึดโต๊ะเอาไว้ (把 แปลว่า ยึด หรือประคอง)

       3. ทำหน้าที่คำบุพบท ในรูปประโยคที่อธิบายไว้แล้วข้างต้น

       4. ทำหน้าที่คำลักษณนาม ในคำว่า 一把米 ข้าวสารหนึ่งกำ

 

                   คำอธิบายสำหรับการใช้把ก็คือ เป็นคำใช้แทนกริยาใดๆ ก็ตามที่สัมพันธ์กับการกระทำในภาคแสดงของประโยคนั่นเอง  และหน้าที่ของกริยาประเภทนี้คือเป็น บุพบท  วางอยู่ระหว่างประธานและกรรม (แล้วจึงต่อด้วยคำกริยาแท้ของประโยค)  รูปประโยคที่เกิดขึ้นประเภทนี้ใช้เพื่อเน้นกรรม มากกว่าการกระทำ ฉะนั้นเราจะพบว่าการกระทำของประโยคจะตามหลังกรรม แทนที่จะอยู่ระหว่างประธานกับกรรม   เมื่อเราเข้าใจตรงนี้แล้ว  เราก็จะเริ่มทำความเข้าใจกริยาชนิดนี้กัน  

 

                  คำกริยาที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ 把 มีอยู่มากมาย  แต่ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นคำที่มักปรากฏในเนื้อหาการสอนภาษาจีนระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยปีหนึ่งถึงปีสอง  ที่สำคัญนักเรียนไม่น้อยที่เรียนเรื่องนี้มาหลายครั้งหลายหนแต่ก็ยังไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเรียนโดยท่องจำแต่โครงสร้างการใช้ แต่มักจะละเลยการตีความหมายและการนำไปใช้สนทนาและแต่งประโยคจริง  การเรียนเพียงหลักการย่อมไม่สมบูรณ์พอในการเรียนรู้ แต่ก็ไม่ควรอ้างว่าเรียนหลักการไวยากรณ์แล้วไม่มีประโยชน์  เพราะไวยากรณ์นั้นมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้เรียนลองนำไปใช้  และแปลความหมายอย่างถูกต้อง   ฉะนั้นในตัวอย่างเนื้อหาต่อไปนี้  นักเรียนควรจะใส่ใจกับคำแปลความหมายด้วย  อย่าท่องจำเพียงนิยามและโครงสร้างทางไวยากรณ์เพียงอย่างเดียว

 

รวมคำกริยาที่ใช้เป็นบุพบทระหว่างประธานและกรรมพร้อมตัวอย่างและการแปลความหมายเพื่อการนำไปใช้สนทนาและเขียน

* ข้อสังเกต  

                  - รูปประโยคประเภทนี้ภาคแสดงจะตามหลังกรรมเสมอ   

                  -  ประโยคส่วนใหญ่มีโครงสร้างคล้ายภาษาไทยมาก  ต่างกันเพียงคำขยายในภาษาไทยจะวางหลังคำถูกขยาย  แต่คำขยาย   ในภาษาจีนจะวางอยู่หน้าคำถูกขยาย  เช่น ภาษาไทยคำว่า เช้าของอีกวันหนึ่ง   ภาษาจีนจะเขียนว่า 另一天早上

 

                  1) บุพบทแสดงเวลา  于、从 、自从

 

决赛明日下午三点进行。

(ต. 決賽于明日下午三點進行。) J

Jué sài yú míng rì xià wǔ sān diǎn jìn xíng。

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเริ่มขึ้น เวลาบ่ายสามโมงวันพรุ่งนี้

 

中午工作另一天早上。

(ต. 我從中午工作到另一天早上。)

Wǒ cóng zhōng wǔ gōng zuò dào lìng yī tiān zǎo shàng。

ผมทำงานตั้งแต่เที่ยงจนถึงรุ่งเช้าอีกวันหนึ่ง

 

自从失业整天都上网找工作。

(ต. 他自從失業整天都上網找工作。)

Tā zì cóng shī yè zhěng tiān dōu shàng wǎng zhǎo gōng zuò。

เขานับแต่ตกงานก็เอาแต่ออนไลน์เพื่อหางานทั้งวัน

2) บุพบทแสดงทิศทาง 往 、沿 、朝 、在 、由 、到

 

大家左边走就看到餐厅了。

(ต. 大家往左邊走就看到餐廳了。)

Dà jiā wǎng zuǒ biān zǒu jiù kàn dào cān tīng le。

ทุกคนมุงไปทางซ้ายก็จะเห็นร้านอาหารเอง

 

孩子们沿着红线走到了食堂。

(ต. 孩子們沿著紅線走到了食堂。)

Hái zi men yán zhù hóng xiàn zǒu dào le shí táng。

พวกเด็กๆเดินเลียบไปตามเส้นสีแดงมาถึงโรงอาหาร

 

照明灯天照着乌云。 

(ต. 照明燈朝天照著烏云。)

Zhào míng dēng cháo tiān zhào zhù wū yún。

ไฟส่องสว่างหันเข้าหาท้องฟ้าส่องไปที่ก้อนเมฆสีดำ

 

家等足球赛的现场直播。

                  (ต. 我在家等足球賽的現場直播。)

                  Wǒ zài jiā děng zú qiú sài de xiàn cháng zhí bō。

                  ผมอยูบ้านเพื่อรอการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล

 

车子南方去接货。

(ต. 車子到南方去接貨。)

Chē zi dào nán fāng qù jiē huò。

รถไปถึงทางใต้เพื่อรับสินค้า

 

3) บุพบทแสดงจุดประสงค์ 为 、为了

 

为了高考买了很多书。

(ต. 我為了高考買了很多書。)

Wǒ wéi le gāo kǎo mǎi le hěn duō shū。

ผมซื้อหนังสือมากมายเพืการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

 

父母子女操心。

(ต. 父母為子女操心。)

Fù mǔ wéi zi nǚ cāo xīn 。

บิดามารดาห่วงใยเอาใจใส่เพื่อลูก

 

4) บุพบทแสดงเป้าหมาย 对 、把 、替 、跟 、将 、对于

 

数学感兴趣。

(ต. 我對數學感興趣。)

Wǒ duì shù xué gǎn xìng qù。

ผมมีความสนใจวิชาคณิตศาสตร์

 

学生书放在书桌上。

(ต. 學生把書放在書桌上。)

Xué shēng bǎ shū fàng zài shū zhuō shàng。

นักเรียนเอาหนังสือวางบนโต๊ะหนังสือ 

 * สามารถใช้คำว่า 将 แทน 把 ได้  เพราะให้ความหมายเหมือนกัน

 

哥哥弟弟做功课。

(ต. 哥哥替弟弟做功課。)

Gē gē tì dì dì zuò gōng kè。

พี่ชายทำการบ้านแทนน้องชาย

 

孩子妈妈学做菜。

(ต. 孩子跟媽媽學做菜。)

Hái zi gēn mā mā xué zuò cài。

ลูกเรียนทำอาหารกับคุณแม่

 

5) บุพบทแสดงความสัมพันธ์  比、跟、同、与、连、和、按照

 

                  他高。Wǒ bǐ tā gāo。  ผมสูงกว่าเขา 

 

他都是乡下人。

(ต. 我跟他都是鄉下人。)

Wǒ gēn tā dōu shì xiāng xià rén。

ผมกับเขาล้วนแต่เป็นคนชนบท

* แปลได้ว่า ผมกับเขาต่างก็เป็นคนชนบท

 

班长来参加会议。 

(ต. 我同班長來參加會議。)

Wǒ tóng bān zhǎng lái cān jiā huì yì。   

ผมมาเข้าร่วมการประชุมพรอมกับหัวหน้าชั้น

 

战争伤亡总是分不开的。

(ต. 戰爭與傷亡總是分不開的。)

Zhàn zhēng yǔ shāng wáng zǒng shì fēn bù kāi de。

สงครามและการเสียชีวิตมักจะเป็นสิ่งที่แยกขาดจากกันไม่ได้

 

主人自己的家人都忘了。

(ต. 主人連自己的家人都忘了。)

Zhǔ rén lián zì jǐ de jiā rén dōu wàng le。  

เจ้าของบ้านแม้แต่สมาชิกครอบครัวของตัวเองก็ลืมจนได้

* แปลได้ว่า แม้แต่สมาชิกในครอบครัวของตัวเอง เจ้าของบ้านก็ยังลืมจนได้

按照说明书安装了硬件 ,还下载了软件。

(ต. 我按照説明書安裝了硬件 ,還下載了軟件。)

Wǒ àn zhào  shuō míng shū ān zhuāng le yìng jiàn ,huán xià zài  le ruǎn jiàn 。

ผมติดตั้งฮาร์ดแวร์ตามคู่มือการใช้งาน และยังดาวน์โหลดซอฟท์แวร์อีกด้วย

 

6) บุพบทแสดงสิ่งที่อยู่นอกขอบเขต 除 、除了。

 

除了大蒜其他我都吃。

Wǒ chú le dà suàn qí tā wǒ dōu chī。                 

ผมนอกจากกระเทียมแล้วอย่างอื่นทานได้หมด

* แปลได้ว่า นอกจากกระเทียมแล้วอย่างอื่นผมทานได้หมด

 

7) บุพบทแสดงการเป็นฝ่ายถูกกระทำ 被 、叫 、令 、使 、让 、给

 

他欺骗了。                                               

(ต. 我被他欺騙了。)

Wǒ bèi tā qī piàn le。

ผมถูกเขาหลอกซะแล้ว

 

这种行为真人感到讨厌。                 

(ต. 這种行為真叫人感到討厭。)

Zhè zhòng xíng wéi zhēn jiào rén gǎn dào tǎo yàn 。

พฤติกรรมแบบนี้ชวนให้คนรู้สึกรังเกียจ   

 

你的成绩大家非常惊讶。               

(ต. 你的成績令大家非常惊訝。)

Nǐ de chéng jī lìng dà jiā fēi cháng jīng yà 。   

ผลสอบของคุณทำใหทุกคนตะลึงเป็นอย่างมาก

 

油价涨价使工业成本也增高了。     

(ต. 油价漲价使工業成本也增高了。)

Yóu jià zhǎng jià shǐ gōng yè chéng běn yě zēng gāo le。

ราคาน้ำมัน่งผลให้ต้นทุนอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น

 

他拿走了我的书。                             

(ต. 我讓他拿走了我的書。)

Wǒ ràng tā ná zǒu le wǒ de shū。

ผมปล่อยให้เขาหยิบหนังสือของผมไป    

 

爸爸不我一个人去游泳。               

(ต. 爸爸不給我一個人去游泳。)

Bà bà bù gěi wǒ yī gè rén qù yóu yǒng。

คุณพ่อไม่อนุญาตให้ผมไปว่ายน้ำคนเดียว   

* คำว่า给ถ้าถูกใช้เป็นกริยาแปลว่า ให้   แต่หากใช้เป็นคำบุพบทระหว่างประธานและกรรมมีความหมายได้สองอย่าง คือ ให้ / อนุญาต

 

6. การรวบรวมคำกริยาที่น่าสนใจโดยแยกเป็นกลุ่ม ๆ

                  ความจริงยังมีคำกริยาอีกมากมายหากเราค้นในพจนานุกรม  แต่เนื้อหาดังต่อไปนี้เป็นคำกริยาบางคำที่ผมรวบรวมมาจากประสบการณ์การสอนทั้งระดับมัธยมปลายและระดับมหาวิทยาลัย  สิ่งหนึ่งที่ผมพบคือนักเรียนนักศึกษาไม่น้อยที่ท่องจำคำกริยาได้มากมาย   แต่คำกริยาง่ายๆที่ปรากฏในบทสนทนาในชีวิตประจำวันกลับไม่รู้จัก และเมื่อผมนำมาเปรียบเทียบกับข้อสอบวิชาภาษาจีนย้อนหลัง    สิ่งที่พบคือ คำกริยาง่ายๆเหล่านี้ปรากฏซ้ำซากในข้อสอบแทบทุกฉบับ  ความถี่ในการปรากฏในข้อสอบนั้นมากกว่าคำกริยายากๆที่ท่องกันเป็นเล่มๆ มากมายนัก  จึงเริ่มเข้าใจว่าทำไมนักเรียนมักจะบ่นว่ารู้สึกว่าตัวเองทำได้  แต่คะแนนไม่ดีอย่างที่คิด   แน่ล่ะ  เพราะนักเรียนพลาดในคำศัพท์ง่ายๆเพราะมัวแต่ท่องคำยากๆนั่นเอง 

 

กลุ่มกริยาที่กระทำโดยอวัยวะตามร่างกาย

 

     拿ná ถือ / หยิบ             打dǎ ตี / กระทบ    接jiē รับ                    摸mó ลูบ

     甩shuǎi เหวี่ยง / สะบัด   推tuī ผลัก / ดัน      挑tiāo คัด / หาบ         撑chēng ค้ำ                  

     摇 yáo ส่าย                  抓 zhuā จับ           捉 zhuō ไล่จับ            捕 bǔ ล่า                   

     扔  rēng โยน                 踢 tī เตะ              踩 cǎi เหยียบ             跳 tiào กระโดด             

     踏 tà ย่ำ                       哭 kū ร้องไห้        笑 xiào หัวเราะ           咬 yǎo กัด

     舔 tiǎn เลีย                    吞 tūn กลืน          呼吸 hūxī หายใจ     消化 xiāohuà ย่อย

     挂 guà แขวน                 牵 qiān จูง            挤 (ต.擠) jǐ บีบ / บิด / เบียด                                   

     颤抖 chàndǒu สั่น         咳嗽 késou ไอ      喘气 chuǎnqì หอบ 

     躺 tǎng เอนกาย              躲 duǒ  หลบ         悬空 xuánkōng  ห้อยโหนกลางอากาศ

     想象 xiǎngxiàng จินตนาการ                         埋伏 máifú หมอบซุ่ม      

 

กลุ่มกริยาที่เกี่ยวกับการรวม การเข้าหากัน การเพิ่ม

 

     贴上 (ต.貼上) tiēshàng ติดเข้าไป           合成 héchéng ประกบเข้าด้วยกัน

     绑起 (ต.綁起) bǎngqǐ มัดเข้าด้วยกัน        混合 hùnhé  ผสมกัน      

     增加 zēngjiā เพิ่มจำนวน                          安装 (ต.安裝) ānzhuāng ติดตั้ง

     载上(ต.載上) zàishàng บรรทุก               借来 jiēlái ยืมมา  

     建起 jiànqǐ สร้างขึ้น                                升高 shēnggāo ยกระดับสูงขึ้น

     下载 (ต.下載) xiàzài ดาวน์โหลด

 

กลุ่มกริยาที่เกี่ยวกับการแยก  การแบ่ง  การลด

 

     区别 (ต.區別)  qūbié แยกแยะ        分开 (ต.分開) fēnkāi แยกออก                  

     切开 (ต.切開) qiēkāi หั่นออก          解开 (ต.解開) jiěkāi คลี่ออก

     拆掉 chāidiào รื้อออก                     揭开 (ต.揭開) jiēkāi แง้ม / เปิดเผย (ความจริง)         

     折断 (ต.折斷) zhéduàn หัก            扣除 kòuchú หัก (จำนวน) ออก 

     降低 jiàngdī ลดระดับลง                  撤除 chèchú  ยกเลิก                  

     撕破 sīpò ฉีกขาด                           炸开 (ต.炸開) zhàkāi  ระเบิดออก

 

กลุ่มกริยาที่เกี่ยวกับอาการทางธรรมชาติ

 

     露出 lùchū เผยให้เห็น                           漏出 lòuchū รั่วออก  

     流出 liúchū ไหลออก                              滑 huá ไถล     

     倒下 dǎoxià ล้มลง                                 塌下tāxià  ถล่ม

 

     爆炸 bàozhà ระเบิด                                吸引 xīyǐn ดึงดูด   

     结合 (ต.結合) jiēhé ประสานกัน                浮 fú  ลอยน้ำ

     漂 piāo ลอย (ในของเหลว)                           飘 (ต.飄)  piāo ลอย (ในอากาศ) / ปลิว             

     淋湿 (ต.淋濕) línshī รดจนเปียก                晒干 (ต.曬乾) shàigān ตากจนแห้ง                             

     淹没 yānméi ท่วมจนมิด                             腾空 (ต.騰空) téngkōng ลอยตัวกลางอากาศ

     下降  xiàjiàng ลด (จำนวน / สถิติ / ระดับ)        上升 shàngshēng เพิ่ม (จำนวน / สถิติ / ระดับ)

     熔化 rónghuà  ละลาย (ด้วยความร้อน)            溶化 rónghuà ละลาย (ด้วยน้ำ)  

     

กลุ่มกริยาที่เกี่ยวกับการทำงานของกลไก/การทำงานในระบบ

                 

     处理 (ต.處理) chǔlǐ จัดการ         排列páiliè จัดเรียง                         

     充填chōngtián เติม (ปริมาณ)                  补充 (ต.補充) bǔchōng เสริม / เพิ่มเติม         

     销售 (ต.銷售) xiāoshòu จำหน่าย           经营 (ต.經營) jīngyíng บริหารงาน

     保证 (ต.保證) bǎozhèng  รับประกัน      输出 (ต.輸出) shūchū ป้อนออกมา           

     生产 (ต.生產) shēngchǎn ผลิต             制造 (ต.製造) zhìzào สร้าง (ผลิต)           

     建设 (ต.建設) jiànshè ก่อสร้าง             设立 (ต.設立) shèlì ก่อตั้ง (องค์กร)

     冲洗 (ต.沖洗) chōngxǐ ชะล้าง              烘干 (ต.烘乾) hōnggān   อบแห้ง       

     磨擦mócā เสียดสี                                操作 cāozuò ควบคุมการทำงาน

     发动 (ต.發動) fādòng ขับเคลื่อน           启动 (ต.啟動)  qǐdòng เดินเครื่อง

     纪录 (ต.紀錄)  jìlù บันทึก                    记载 (ต.記載)  jìzǎi จารึก / บันทึก

     统计(ต.統計) tǒngjì รวบรวมสถิติ           登记 (ต.登記)  dēngjì ลงทะเบียน

     允许 (ต.允許) yǔnxǔ อนุญาต               批准 (ต.批准)  pīzhǔn อนุมัติ

     负责 (ต.負責)  fùzé รับผิดชอบ             申请 (ต.申請) shēnqǐng ยื่นคำร้อง      

     投诉 (ต.投訴) tóusù ร้องทุกข์               控告kònggào ฟ้องร้อง

     赔偿 (ต.賠償)  péicháng  ชดใช้             罚款 (ต.罰款)  fákuǎn ปรับเงิน

     保存 bǎocún เก็บรักษา                          保温 (ต.保溫)  bǎowēn รักษาอุณหภูมิ    

     保险 (ต.保險)  bǎoxiǎn ประกันภัย