ในระบบนิเวศต่างๆ ต้องมีกระบวนการที่สำคัญ 2 กระบวนการ คือ การหมุนเวียนสาร และการถ่ายทอดพลังงาน ซึ่งการถ่ายทอดพลังงานในแต่ละโซ่อาหาร จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับต่างๆ พลังงานจะถูกถ่ายทอดไปยังผู้บริโภคลำดับถัดไปเพียง 10% เท่านั้น สามารถแสดงให้เห็นได้ในรูปแบบของพีระมิดพลังงานของสิ่งมีชีวิต

ในระบบนิเวศต่างๆ ต้องมีกระบวนการที่สำคัญ 2 กระบวนการดังนี้

1. การหมุนเวียนสาร โดยพืชดูดสารอนินทรีย์ในดินไปใช้ในการดำรงชีวิต เนื้อเยื่อพืชกลายเป็นอาหารของสัตว์ เมื่อพืชและสัตว์ตายลง ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์จะย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ ทำให้สารอนินทรีย์กลับคืนสู่ดิน ซึ่งพืชสามารถดูดไปใช้ได้อีก

2. การถ่ายทอดพลังงาน พลังงานแสงอาทิตย์ถ่ายทอดไปสู่พืช โดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง พลังงานจากพืชถ่ายทอดไปสู่ผู้บริโภคพืช พลังงานจากผู้บริโภคพืชถ่ายทอดไปสู่ผู้บริโภคสัตว์ จากการกินต่อกันเป็นทอดๆ ซากพืชและสัตว์ที่ตายถูกย่อยสลาย โดยผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ ทำให้มีการถ่ายทอดพลังงานเข้าไปสู่ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ ในทุกขั้นตอนของการถ่ายทอดพลังงานเกิดการสูญเสียพลังงานแก่สิ่งแวดล้อมในรูปของพลังงานความร้อน

นักวิทยาศาสตร์พบว่า การถ่ายทอดพลังงานในแต่ละโซ่อาหาร จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับต่างๆ พลังงานจะถูกถ่ายทอดไปยังผู้บริโภคลำดับถัดไปเพียง 10% พลังงานที่เหลืออีก 90% ถูกใช้ไปดังนี้

1. ใช้ไปในกระบวนการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด

2. พลังงานบางส่วนเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน แล้วถ่ายเทให้แก่สิ่งแวดล้อม

3. พลังงานบางส่วนอยู่ในส่วนที่บริโภคไม่ได้ เช่น เปลือก กระดูก ขน เล็บ

พลังงานของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ จากผู้ผลิตไปจนถึงผู้บริโภคลำดับสุดท้าย มีลักษณะลดลงตามลำดับเป็นรูปพีระมิด เรียกว่า พีระมิดพลังงานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร