เรื่องนี้ ดร.โทนี่ แวคเนอร์ ( Dr.Tony Wagner ) จาก Center for Global Education ได้เปิดเผยถึงทักษะสำคัญ 7 ประการ ที่เขากล่าวว่าควรจะเป็นทักษะที่ทุกโรงเรียนต้องสอน แต่แม้ว่าโรงเรียนจะไม่ได้สอน ผู้ปกครองก็สามารถที่ส่งเสริมและสนับสนุนได้เช่นกันค่ะ และทักษะ 7 ประการที่ว่านี้มีอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
รูปแบบการเรียนรู้ในสมัยก่อน อาจเน้นการท่องจำและคำนวณเป็นหลัก แต่สำหรับยุคปัจจุบัน ทักษะที่มาแรงและมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งนับเป็นทักษะที่จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมทั้งจากในระบบโรงเรียน และจากครอบครัวค่ะ
ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากคนคนเดียว นี่คือนิยามความสำเร็จใหม่ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ยุคนี้ ใครมีทีมดี มีคอนเนคชันที่เยี่ยม ก็นับว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง และนี่คือเหตุผลที่ทักษะนี้จำเป็นต้องสอนเด็ก ๆ นั่นเองค่ะ
อีกหนึ่งทักษะสำคัญเพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกในยุคปัจจุบัน เด็กที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัว นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของเขาแล้ว ก็อาจทำให้เกิดปัญหากับผู้อื่นด้วย และการปรับตัวที่ดี ก็ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพจิตของเด็กอีกด้วยค่ะ
การรู้จักคิด รู้จักมองหาสิ่งใหม่ ๆ นับเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นทักษะที่สอนกันได้ตั้งแต่เด็ก ๆ โดยการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ได้ลองผิดลองถูกในการทำสิ่งใหม่ ๆ และการให้ประสบการณ์ที่หลากหลายกับเด็กนั่นเองค่ะ
คำว่าอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่นิยามของการสื่อสารที่ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะทักษะการสื่อสารที่ดี หมายถึงการมีความคิดความอ่าน มีความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้ยังหมายรวมถึงการรู้จักมารยาทและกาลเทศะในการสื่อสารอีกด้วยนะคะ
นอกจากความสามารถในการสื่อสารที่ดีแล้ว การรู้จักเลือกรับและวิเคราะห์ข้อมูล ก็นับว่าเป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะโลกยุคปัจจุบัน เป็นโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ดี ไม่ดี ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และข้อมูลที่หลอกลวง ซึ่งหากเด็ก ๆ ไม่ได้รับการสอนทักษะเหล่านี้ ก็อาจตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จของผู้อื่น แทนที่เด็ก ๆ จะประสบความสำเร็จจากข้อมูลเหล่านั้น
อันที่จริงแล้ว ทักษะที่ว่านี้เป็นสิ่งที่มีติดตัวเด็ก ๆ มาอยู่แล้วตั้งแต่กำเนิดเลยก็ว่าได้ค่ะ เด็ก ๆ ทุกคนล้วนมีสัญชาตญาณแห่งความอยากรู้อยากเห็น รวมไปถึงการมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีขีดจำกัด สิ่งสำคัญมากกว่าการสอน จึงเป็นการเก็บรักษาทักษะนี้ให้อยู่ติดตัวเด็กไปจนโต และเสริมในเรื่องของการนำเอาทักษะเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น เท่านี้หนทางของคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตก็คงอยู่ไม่ไกลแล้วล่ะค่ะ
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก
Facebook.com/PimAndChildren