Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ความผูกพัน...คุณค่าที่ (ลูกของคุณ) คู่ควร

Posted By ณัฏฐณี สุขปรีดี | 13 มิ.ย. 60
3,426 Views

  Favorite

คุณพ่อคุณแม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ลูกติดแม่แบบนี้ เดี๋ยวก็เป็นลูกแหง่หรอก” กันบ้างไหมคะ? ประโยคนี้ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเข้าใจผิดกันไปใหญ่โตทีเดียว

 

หลาย ๆ ครอบครัวอาจคิดว่า ถ้าเราสนิทและผูกพันกับลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกทำอะไรไม่เป็น ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จนทำให้เราพยายามที่จะผลักให้ลูกออกห่างจากเราโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การสร้างความผูกพันกับการตามใจลูกนั้น เป็นคนละประเด็นกันเลยหละค่ะ

 

ภาพ : Shutterstock

 

ดร.เดโบร่าห์  แมคนามารา กล่าวว่า “การใช้เวลาสร้างความผูกพันกับลูกมาก ๆ นั้น ไม่ได้ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้าแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม มันคือเชื้อเพลิงที่ช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและแข็งแรงต่างหาก” ครูพิมเองก็เห็นด้วยและสนับสนุนความคิดนี้เช่นเดียวกันค่ะ นอกจากนี้ความผูกพันยังเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่เกิดขึ้นเป็นปกติตามช่วงวัย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อที่จะได้วางแผนสร้างความสัมพันธ์กับลูกได้อย่างถูกต้อง ถ้าอย่างนั้น เรามาทำความเข้าใจกับเรื่องของ “ความผูกพัน” นี้ไปด้วยกันเลยนะคะ

 

เด็กจะติดผู้เลี้ยงในช่วงวัยใดบ้าง ?

โดยปกติแล้วเด็ก ๆ วัย 0-3 ปี จะผูกพันหรือติดผู้เลี้ยงค่อนข้างมาก โดยจะแสดงอาการไม่อยากห่าง งอแงเมื่อไม่ได้อยู่กับคนที่สนิท รู้สึกไม่มีความสุข ไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ หรือบางครั้งอาจจะแสดงอาการหวงเมื่อพ่อหรือแม่ไปเล่นหรือไปอยู่ใกล้เด็กคนอื่น ๆ

ซึ่งอาการเหล่านี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเด็ก ๆ วัยนี้ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่อยู่มาก ทั้งในด้านอาหารการกิน การนอน การดูแลความปลอดภัย และการเป็นที่พึ่งทางใจที่สำคัญสำหรับพวกเขา โดยปกติแล้วเด็ก ๆ จะยังคงแสดงอาการเหล่านี้อยู่บ้าง จนกระทั่งเข้าสู่ช่วง 6-7 ปี จึงจะเริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองและรับผิดชอบตัวเองได้ค่ะ

 

เด็กที่รู้สึกขาดความผูกพันจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง ?

โดยปกติแล้ว เด็กเล็ก ๆ จะไม่เข้าใจหรือไม่สามารถบอกเราให้รับรู้ได้โดยตรงว่าเขารู้สึกขาดความรักหรือรู้สึกต้องการความผูกพันที่มากขึ้น เด็ก ๆ กลุ่มนี้จึงมักแสดงออกในเชิงพฤติกรรมมากกว่าการพูดออกมาตรง ๆ

เรามาลองดูกันนะคะว่า อาการอะไรบ้าง ที่เด็ก ๆ แสดงและอาจบ่งบอกให้รู้ว่าเขากำลัง “ขาดความอบอุ่น” ซึ่งเราในฐานะพ่อแม่ จำเป็นที่จะต้องเข้าใจสัญญาณเหล่านี้ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือและเติมเต็มเด็ก ๆ ได้อย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ

           1. เด็กแสดงความพยายามอย่างมากที่จะทำดี พยายามที่จะใกล้ชิด เอาใจ หรืออวดความสามารถให้พ่อแม่หรือครูได้เห็น

           2. เด็กพยายามทำตัวให้โดดเด่นด้วยแนวทางของตัวเอง เช่น รังแกผู้อื่น ยอมเป็นตัวตลก หรือทำตัวให้เป็นที่รักของกลุ่มเพื่อนด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม

           3. พยายามแข่งขันกับเพื่อนหรือเด็กคนอื่นอยู่เสมอ กลัวการพ่ายแพ้อย่างมาก

           4. พยายามไม่ทำผิด ไม่ขัดใจหรือไม่ทำให้ผู้อื่นโกรธ ยอมตามผู้อื่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

พฤติกรรมเหล่านี้ แม้บางอย่างจะแตกต่างกันสุดขั้ว เช่น การทำตัวให้ดี กับ การทำตัวเกเร แต่อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เด็กต้อง “พยายาม” อย่างมากนี้ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมในทางบวกหรือลบ ต่างก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการการสนใจได้เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งความรู้สึกขาดนี้ นอกจากจะไม่ได้ทำให้เด็กรู้สึกเข้มแข็งหรือพึ่งพาตัวเองได้อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดแล้ว ความรู้สึกขาดเหล่านี้ ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการตัดสินใจของเด็กในอนาคต โดยเฉพาะในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ  อีกด้วย

 

เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็อย่าลืมจัดสรรเวลาสักนิด เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูก ๆ กันด้วยนะคะ เพราะการที่เด็กมีรากฐานความผูกพันที่แข็งแกร่งนี่หละค่ะที่จำเป็น เสมือนเป็นก้าวที่สำคัญสู่การเป็น “ผู้ใหญ่” ที่ใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้อย่างมั่นคงในอนาคต 

 

 

ครูพิม ณัฏฐณี   สุขปรีดี

นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก

Facebook.com/PimAndChildren

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ณัฏฐณี สุขปรีดี
  • 4 Followers
  • Follow